Humberger Menu

เสื้อผ้ามือสอง รายได้ วัฒนธรรม และความวินเทจใน 3 จังหวัดภาคใต้

Auto Play

Playing

เสื้อผ้ามือสอง รายได้ วัฒนธรรม และความวินเทจใน 3 จังหวัดภาคใต้

เสื้อผ้ามือสอง รายได้ วัฒนธรรม และความวินเทจใน 3 จังหวัดภาคใต้

มองกระแส ‘ผู้ว่าฯ เลือกตั้ง’ ผ่านสายตาผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ

มองกระแส ‘ผู้ว่าฯ เลือกตั้ง’ ผ่านสายตาผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ

สิ่งที่เทคโนโลยีไม่มีคือจิตวิญญาณ ‘คนฉายหนัง’ อาชีพที่ไม่มีคนเห็น

สิ่งที่เทคโนโลยีไม่มีคือจิตวิญญาณ ‘คนฉายหนัง’ อาชีพที่ไม่มีคนเห็น

Politics & Society

20 กรกฎาคม 2565 11:15 น.

ข้อมูลจาก Thredup เว็บไซต์ซื้อขายเสื้อผ้ามือสองใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกระบุว่า มูลค่าซื้อขายเสื้อผ้ามือสองในปัจจุบันทั่วโลกอยู่ที่ 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 


สำหรับประเทศไทยเอง เท่าที่มีการเก็บสถิติและเผยแพร่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยเปิดเผยรายงานว่า คนไทยจะซื้อเสื้อผ้ามือสองอยู่ที่ 440 บาท / เดือน และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้น ทำให้คนไทยหันมาใช้สินค้ามือสองมากขึ้น


สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ที่เคยออกมาระบุเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาว่า กระแสแฟชั่นหมุนเวียนและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เห็นได้จากในวงการแฟชั่น เริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจ เช่น ธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้า ธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง รวมถึงผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล ที่กำลังมีการเติบโต 


หากย้อนกลับไปช่วงก่อนยุคโควิด-19 ช่วงที่การซื้อขายออนไลน์ยังไม่เฟื่องฟูมากนัก นักสะสม ผู้ชื่นชอบสะสมใส่เสื้อผ้ามือสองในเมืองหลวงต่างต้องเดินทางมายังตลาดนัดจตุจักรเพื่อเสาะหา ‘ขุมทรัพย์’ สินค้าดี ราคาถูก และหากต้องการราคาที่ถูกมากไปกว่านั้น หรือวางแผนจะเป็นพ่อค้ารายใหม่ก็จะต้องเดินทางไปยังตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว สองสถานที่นี้เป็นที่รู้จักทั้งสำหรับคนทั่วไปและนักสะสมเสื้อผ้ามือสอง


แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกพื้นที่เป็นแหล่งซื้อขายเสื้อผ้ามือสองขนาดใหญ่ นั้นก็คือ พื้นที่ใน 3 จังหวัด 4 อำเภอภาคใต้ หากใครได้ไปเยือนพื้นที่นี้ครบ 7 วัน จะสามารถไปตลาดนัดเสื้อผ้ามือสองได้ไม่ซ้ำที่เลยตั้งแต่สงขลา ไปจนถึงปัตตานี นราธิวาส และใต้สุด จังหวัดยะลา

ถ้าพูดถึงความเหมือนร่วมกันระหว่างตลาดโรงเกลือและตลาดในพื้นที่ 3 จังหวัด นั่นก็คือ เป็นพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ย่อมสามารถเข้าถึงสินค้าจากต่างประเทศได้ง่ายกว่าพื้นที่อื่นๆ 


คำถามก็คือ แล้วอะไรทำให้ ‘เสื้อผ้ามือสอง’ ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ถูกพูดถึงน้อยกว่า เป็นที่รู้จักน้อยกว่าตลาดนัดโรงเกลือและตลาดนัดจตุจักร


ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์เสื้อผ้ามือสองในพื้นที่ความมั่นคงในภาคใต้

ยูซรอง สะมาแอ คนสายบุรี ปัตตานี เจ้าของร้านเสื้อผ้าออนไลน์ ผ่านอินสตาแกรม 'bangheng' มีผู้ติดตามกว่า 2,000 คน เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของความคึกคักและความสนใจของคนในพื้นที่นี้ต่อเสื้อผ้ามือสองว่า สมัยก่อนเสื้อผ้าเหล่านี้จะไหลเข้าทางด่านชายแดนใต้อย่างสุไหงโกลก นราธิวาส และตากใบ ปัตตานี จำนวนเยอะมาก พอเข้ามาเยอะก็มีตลาดนัดในชุมชน

สอดคล้องกับ ซาบุดี ประดู่ นักเล่นเสื้อผ้ามือสอง เจ้าของอินสตาแกรม 'Antiqueretro' และ มะยาซี ตือมาลี เจ้าของร้านเสื้อผ้ามือสองในสายบุรี ปัตตานี ชื่อร้าน หาตังค์จ่ายค่านม และขายผ่านอินสตาแกรม 'hatangjaicanom' มีผู้ติดตามกว่า 6,500 คน เล่าให้ฟังว่า เสื้อผ้ามือสองส่วนใหญ่มาจากชายแดนมาเลเซีย แล้วเข้ามาตั้งเป็นตลาดนัดใหญ่บริเวณอำเภอยะหริ่ง ปัตตานี ยิ่งไปกว่านั้นพ่อค้าเสื้อผ้ามือสองเจ้าใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดมักทำกันเป็นกิจการแบบรุ่นสู่สุ่น จากรุ่นปู่สู่รุ่นพ่อ จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก จากรุ่นลูกสู่รุ่นหลานในปัจจุบัน มันจึงไม่ได้หายไปไหน ตราบเท่าที่มีคนซื้อก็ย่อมมีคนขาย


คำถามสำคัญต่อมาก็คือ การซื้อขายเสื้อผ้ามือสองสร้างกำไรให้กับคนในพื้นที่มากแค่ไหนนั้น อับดุลอาชิ ดาราแม โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดตะอาวุน บางปู ปัตตานี เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของมัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ว่า เงินในการก่อสร้างมัสยิดนี้ก็มีกำไรจากการซื้อขายเสื้อผ้ามือสองของพ่อค้าในชุมชน

“40 ปีก่อนรายได้ดีมากถึงขนาดว่าน้ำที่สำหรับไว้ล้างหน้าตอนไปขึ้นรถไฟเพื่อนำเสื้อผ้ามือสองไปขายที่กรุงเทพฯ ตอนจะล้างหน้าไม่ใช้น้ำเปล่า ซื้อน้ำโคล่าน้ำแฟนต้ามาล้างหน้าไว้ อยากหาเงินเป็นแสนต่ออาทิตย์สบายมากเลย รายได้มันดีมาก สินค้าราคาไม่แพงแต่จำนวนมันเยอะ แล้วก็มีเถ้าแก่ใหญ่หลายคนจากเสื้อผ้ามือสอง แต่ตอนนี้ก็เริ่มทยอยๆ เสียชีวิตที่เหลือก็เป็นรุ่นน้องๆ รุ่นหลานๆ ที่เหลืออยู่”


 “บรรดาเถ้าแก่ตอนนี้สามารถซื้อรถผ่อนบ้านได้อย่างสบายมาก เทียบกับชาวประมงที่อาจจะไม่สามารถซื้อรถคันใหม่ป้ายแดงได้ ถ้าเป็นพ่อค้าเสื้อผ้ามือสอง ขายแป๊บเดียวก็สร้างบ้านใหญ่โต ออกรถป้ายแดงได้เลย” อับดุลอาชิ ดาราแม โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดตะอาวุนเล่าให้ฟัง


ความได้เปรียบอีกอย่างของพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ในเชิงประวัติศาสตร์ที่ทำให้คนในพื้นที่มีรายได้จากการขายเสื้อผ้ามือสองมหาศาลนั่นก็คือ รถไฟ แม้พื้นที่ 3 จังหวัดจะไกลมากเมื่อเทียบพื้นที่ชายแดนอื่นๆ แต่เพราะมีสถานีรถไฟอยู่ใกล้ชายแดน และสามารถบรรทุกเสื้อผ้ามือสองได้เป็นหลายสิบตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ขนส่งสินค้าไปขายยังกรุงเทพฯ ได้เป็นจำนวนมากๆ  ตามคำบอกเล่าของ ซอลีฮะห์ อาเย๊าะแซ เจ้าของร้านเสื้อผ้ามือสอง ตลาดนัดมะพร้าว จังหวัดยะลา

“ข้อดีที่นี่คือรับส่งสินค้ามันจะง่าย เรามีสถานีรถไฟ ก็ขนส่งไปมาๆ ระหว่างมาเลเซียสู่สถานีสุไหงโก-ลก นราธิวาส แล้วก็ลงมาที่สถานีรถไฟยะลา  เมื่อมีเสื้อผ้ามือสองมาจุดนี้มากขึ้น ตลาดนัดเสื้อผ้ามือสองที่เคยใหญ่ที่สุดในพื้นที่ 3 จังหวัด ตลาดนัดมะพร้าวก็เกิดขึ้น”


แล้วความได้เปรียบในจุดนี้เองที่สถานีรถไฟเชื่อม มาเลเซีย 3 จังหวัดภาคใต้ เข้าสู่กรุงเทพฯ แม้ระยะทางจะไกลมาก แต่เนื่องจากรถไฟสามารถขนส่งสินค้าได้เป็นจำนวนมาก เดินทางต่อเดียวไม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางและมีค่าขนส่งราคาถูก ทำให้เสื้อผ้ามือสองจากทุกมุมโลกสามารถส่งตรงไปยังผู้บริโภคในเมืองหลวงโดยพ่อค้าแม่ขายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้นั้นเอง


“ตอนที่ไปที่กรุงเทพฯ พ่อค้าขนเสื้อผ้าไปจำนวนเยอะๆ มาก ไปขายก็ประมาณ 1-2 วันก็กลับมา ออกจากบ้านวันศุกร์ ถึงกรุงเทพฯ ขายวันเสาร์และวันอาทิตย์ วันจันทร์ก็เดินทางกลับถึงบ้านอยู่กับครอบครัว มีรายได้ทุกวันศุกร์”


“ทุกวันอังคารเถ้าแก่ในพื้นที่จะขนเสื้อผ้ามือสองเป็นกระสอบใหญ่ 10-20 กระสอบ ไปแจกจ่ายให้ตามบ้านในชุมชน บรรดาผู้หญิงแต่ละบ้านก็จะนำเสื้อผ้ามาซัก ล้าง รีด จากนั้นวันศุกร์เถ้าแก่ก็ไปรับผ้าตามบ้านไปส่งสถานีรถไฟที่ยะลา แล้วก็หลังจากนั้นเขาจะเดินทางไปถึงกรุงเทพฯ ขายแค่วันสองวันวันจันทร์ก็กลับมาถึงบ้าน จากนั้นก็นำเงินที่ขายได้จ่ายเป็นค่าจ้างซักรีดให้กับคนในชุมชน” โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดตะอาวุนเล่า


พื้นที่ความมั่นคงในภาคใต้ เชื่อมโลก เชื่อมไทยผ่านเสื้อผ้ามือสอง

คำถามสำคัญที่อ่านจนถึงตอนนี้คือ เสื้อผ้ามือสองเหล่านี้ ทั้งยี่ห้อดัง ของแบรนด์เนมเหล่านี้มาจากไหน แล้วทำไมคนในพื้นที่ 3 จังหวัดจึงได้เปรียบกว่าคนในพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากเหตุผลทางภูมิศาสตร์ ที่ตั้งที่ใกล้กับประเทศมาเลเซีย


ซาบุดี ประดู่ ตอบว่า ความได้เปรียบสำคัญคือ เยาวชน วัยรุ่น วัยเรียนในพื้นที่  3 จังหวัดภาคใต้มีโอกาสไปเรียนภาษา ศาสนาหรือไปเรียนในมหาวิทยาลัยด้านอิสลามยังต่างประเทศ โดยเฉพาะปากีสถานจะได้เปรียบพ่อค้าคนอื่นๆ มากที่สุด เพราะสามารถเข้าถึงเสื้อผ้ามือสองที่คนตะวันตกจากประเทศที่เจริญแล้วบริจาคมาให้ผ่านองค์กรการกุศล


“นักศึกษาไทยในสามจังหวัดไปเรียนในประเทศปากีสถาน แล้วประเทศนี้มีองค์กรการกุศลจากประเทศที่พัฒนาแล้วมาบริจาคเสื้อผ้าแล้วพวกนักศึกษาไทยก็ไปเจอว่า เสื้อผ้าเหล่านี้เป็นที่นิยมในบ้านเรา พวกเขาก็คุยกับพ่อค้าเสื้อผ้ามือสองที่ตลาดนัดสวนจตุจักรเพื่อคัดเสื้อผ้ายี่ห้อดังมาขาย”  


ด้านอับ ดุลอาชิ ดาราแม โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดตะอาวุน บางปู ปัตตานี เล่าให้ฟังว่า เนื่องจากประเทศมาเลเซียเคยเป็นประเทศอาณานิคมของอังกฤษ เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ทำให้สองประเทศนี้ใกล้ชิดกับประเทศอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่า เมืองการค้า จึงไม่น่าแปลกใจที่สินค้ามือสองจากประเทศตะวันตกจะผ่านเข้ามายังประเทศเหล่านี้ มากไปกว่านั้นคือเรื่องภาษาและศาสนา แม้สำเนียงจะแตกต่างกันบ้าง แต่การที่ใช้ภาษามลายูเหมือนกันจึงทำให้การติดต่อซื้อขายทำได้ง่ายเมื่อเทียบกับพ่อค้าจากภูมิภาคอื่นๆ

“ระยะทางที่เราจะสามารถไปมาเลเซียใช้ระยะทางก็ไม่เยอะ สองสามชั่วโมงก็สามารถที่จะเอาของกลับมาที่บางปูได้แล้ว แต่ถ้าพี่น้องไทยจากกรุงเทพฯ จะมาที่มาเลเซีย ไปเอาที่ด่านชายแดน ระยะทางมันมากพอสมควร”

สอดคล้องกับ ซอลีฮะห์ อาเย๊าะแซ เล่าให้ฟังว่า ทางนักธุรกิจจากมาเลเซียก็นำเสื้อผ้ามือสองมาจากหลากหลายที่ ทั้งญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ ส่วนลูกค้าของเธอเองก็ไม่ได้มีแต่คนไทยหรือคนจากภูมิภาคอื่นของประเทศ แต่ยังมาจากต่างประเทศอีกด้วย


“ต่างชาติก็มาอยู่ตลาดนัดเสื้อผ้ามือสองในพื้นที่ 3 จังหวัดกันเยอะค่ะ คนอียิปต์ คนแคนาดา คนอาหรับก็มาซื้อ” แม่ค้าจากตลาดนัดมะพร้าว ยะลา ระบุ

ส่วนหากใครสงสัยถึงคุณภาพของเสื้อผ้ามือสองทั้งพ่อค้า แม่ขายและนักสะสมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องคุณภาพ การตัดเย็บ สีที่สกรีนลวดลายและอัตราการยืดหด ฉีกขาดของเสื้อมีน้อยกว่าเสื้อผ้ามือหนึ่งในปัจจุบันทั้งๆ ที่ราคาต่างกันเกือบหลายเท่าตัว “เสื้อผ้ามือสองไม่ได้มาจากอเมริกาอย่างเดียว มีพวกญี่ปุ่น เอลซัลวาดอร์ เม็กซิโก และที่คนในพื้นที่ 3 จังหวัดนิยมเสื้อผ้ามือสองกันมากเพราะคุณภาพมันจะดีกว่าการผลิตจากบางประเทศที่อยู่เหนือประเทศไทย”


“เสื้อผ้ามือสองส่วนใหญ่จะเป็นจากอเมริกา ของจากต่างประเทศซึ่งเนื้อ การผลิต การตัดเย็บอะไรทุกอย่างมันดีกว่าตามตลาดทั่วไป ที่สำคัญเนื้อผ้าการสกรีนอะไรมันดีกว่าเสื้อผ้ามือหนึ่งด้วยซ้ำ อย่างสีเสื้อก็ไม่ใช่ซักสองสามทีแล้วสีตก มันทนมาก ก็กลายเป็นว่ายอดนิยมสำหรับชาวบ้าน 3 จังหวัด” ยูซรอง สะมาแอ ระบุ

“เสน่ห์ของมันก็คือมันเป็นเสื้อคุณภาพดีครับ แล้วก็ราคาก็แตะต้องได้ ราคาถูกนะครับ ก็ถ้าเทียบกับห้างก็จะตัวหนึ่งตกประมาณ 500-1,000 แต่ถ้ามาเลือกเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนี้ก็เหมือนร้านผมก็จะได้ 3 ตัวราคาแค่ 100 บาท คือเสน่ห์มันอยู่ที่ราคาถูก แล้วคนที่ซื้อไปก็ได้ใช้สินค้าที่คุณภาพดีครับ” อิลฟาม มามะ เจ้าของร้านส่งเสื้อผ้ากระสอบ จากร้านบังเอ๊ะ เสื้อผ้ากระสอบ ผู้สืบทอดกิจการจากรุ่นพ่อ มีจำนวนเสื้อผ้ามือสองใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของปัตตานี กล่าวย้ำถึงคุณภาพเสื้อผ้ามือสอง


เสียงสะท้อนและปฏิกิริยาของการถูกทำให้เป็นคนอื่นในประเทศ

จากเรื่องราวของเสื้อผ้ามือสอง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้สะท้อนให้เห็นถึงความเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่จำนวนมหาศาล

หากนักสะสมเสื้อผ้ามือสองสำรวจที่มาที่ไปว่า เสื้อผ้ามือสองที่กำลังดูหรือกำลังซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก อาจจะทราบอยู่แล้วและอาจจะเพิ่งทราบว่า หลายๆ ร้านบรรดาพ่อค้า แม่ขายและเสื้อผ้ามือสองที่เรากำลังจะกดซื้อก็อาจจะมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาก็ได้


น่าเสียดายแต่เพียงว่า ปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้กำลังถูกทำให้เป็นอื่นผ่านกฎหมายพิเศษต่างๆ ประกอบกับการนำเสนอข่าวของเหตุการณ์ความไม่สงบ การเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตามทำให้ศักยภาพของพื้นที่เหล่านี้ยังไม่สามารถเติบโตได้มากเท่าที่ควร หากเทียบกับมูลค่าซื้อขาย เสื้อผ้ามือสองในปัจจุบันทั่วโลกอยู่ที่ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ยูซรอง สะมาแอ เจ้าของร้านเสื้อผ้าออนไลน์สะท้อนประเด็นนี้ให้ฟังอย่างสอดคล้องกัน

“มันฝังลึกในความคิดของคนหลายๆ คนมาก ที่แบบปัตตานีอย่างนั้น ยะลาอย่างนี้ ไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวตาย โอ้โห มันไปไกลขนาดนั้น ผมอยากให้มา มาสัมผัสก่อน ถ้ามันไม่ดีจริงๆ ค่อยว่ากันนะครับผม แต่ตรงนี้ สายบุรี จังหวัดปัตตานี ผมรับรองนะครับปลอดภัย”
  

ขณะที่ ซอลีฮะห์ อาเย๊าะแซเจ้าของร้านเสื้อผ้ามือสอง จังหวัดยะลา บอกเล่าถึงความปลอดภัย ว่าไม่ใช่ทุกพื้นที่จะอันตรายเท่ากันหมด

“เมื่อก่อนที่ก๊ะ (พี่) เรียนอยู่กรุงเทพฯ ใช่ไหม บางทีเราดูแต่ข่าวก็กลัวใช่ไหม เหมือนน่ากลัวไม่อยากกลับไม่อยากไปเลย ไม่อยากอยู่เลยใช่ไหม แต่พอเรามาอยู่จริงๆ โห อยู่สบายค่ะ มีความสุข เช้าๆ ไปซื้อข้าวไม่มีอะไร เหมือนบางทีเรานอนๆ อยู่เขาบอกว่าเกิดระเบิดตรงนู้นตรงนี้ เราอยู่ในพื้นที่เราไม่ได้รู้เรื่องเลยค่ะ แล้วก็พอมาเปิดโซเชียล มันจะเห็นว่า เออ ตรงนู้นระเบิด ตรงนี้ระเบิด แต่เราอยู่จริงๆ เราไม่ได้ยินอะไรเลยนะ ขนาดเราอยู่ในเมืองนะ เขาบอกว่าหลายจุดๆ เราก็ไม่รู้เรื่อง ตอนเช้าเราก็มาเปิดร้าน ก็มีลูกค้าเดินไปเดินมาอยู่ค่ะ มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด”

“การเป็นพ่อค้าเสื้อผ้ามือสองของผม มันได้หลายอย่าง ได้ทั้งคนนอกพื้นที่ ได้ทั้งคนต่างจังหวัด เรียกได้ว่าทั่วประเทศก็ว่าได้ บางทีต่างประเทศก็มี เวลาเราซื้อกันไปนานๆ เราก็สนิท คุยกันประมาณเพื่อนสนิทก็มีบ้างครับ ผมว่าเสื้อผ้ามือสองมันให้มากกว่ารายได้ บางทีเพื่อนที่ไม่เข้าใจว่าพื้นที่ของเรามันมีเหตุการณ์รุนแรงหรือเปล่า พอเขาได้คุยกับเรา ก็อธิบายไปว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเห็น มันเบากว่านั้น คุณสามารถมาเที่ยวได้ ผมพาคุณเที่ยวได้เลย ทำให้คนเข้าใจมากขึ้นว่าพื้นที่เราที่เรียกว่ารุนแรงมันก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่เขาคิด บางทีผมก็ชวนเขามา เดี๋ยวผมพาไปตามตลาดเลย” คือความเห็นเจ้าของร้าน 'หาตังค์จ่ายค่านม' มะยาซี ตือมาลี 


“อย่างล่าสุดผมมีเพื่อนที่เป็นดารา ผมพาเขาไปเที่ยวตลาด เขาก็บอกว่า เฮ้ย นี่เหรอพื้นที่ความมั่นคงเงินในกระเป๋าเขา 2,000 สามารถซื้อของได้เต็มรถเลย เขาชอบมาก และบอกว่าวันหลังจะมาอีก จะพาเพื่อนมาด้วย คือเราสามารถบอก ไม่จำเป็นต้องผ่านสื่อ แต่รู้จักกันครับ ก็พามาตลาด”  ซาบุดี ประดู่ เจ้าของอิสตาแกรม Antiqueretro บอก


ทั้งหมดนี้คือ เสียงสะท้อนของพ่อค้า แม่ขายและนักสะสมเสื้อผ้ามือสองในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้และ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา และตอบรับเป็นเสียงเดียวกันว่า หากผู้อ่านท่านใดสนใจจะมาซื้อเสื้อผ้ามือสองในพื้นที่ พวกเขายินดีมากๆ ที่จะพาเดินตลาด สามารถติดต่อผ่านอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กของพวกเขาได้


“พวกผมอยากให้คนไทยเห็นมุมมองใหม่ๆ ในบ้านของพวกเรา” คือคำเชิญชาวนจาก อิลฟาม มามะ 



Latest

+
ชีวิตนักแสดงอาชีพที่ผลิดอกออกผลในวัย 32 ปี ของ ‘เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ’