ดื่มด่ำเซตชายามบ่ายกรุ่นกลิ่นลาเวนเดอร์ กับ Lavender Afternoon Tea ที่ The Okura Prestige Bangkok

ถ่ายภาพ: จิตติมา หลักบุญ

เมื่อพูดถึง Afternoon Tea หรือชายามบ่ายนั้นนับเป็นวัฒนธรรมการกินดื่มของสหราชอาณาจักร จึงไม่น่าแปลกที่เราจะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมการดื่มชาแบบผู้ดีอังกฤษอย่างที่เราได้ยินมาเนิ่นนาน ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1840 กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่มีไว้สำหรับสุภาพสตรีชั้นสูงเพื่อเข้าสังคมและพบปะสังสรรค์ โดยมีอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ ชา แซนวิช สโคน และเค้ก โดยมักเสิร์ฟในช่วงเวลา 16.00 น. กิจกรรมนี้ได้รับความนิยมจนเป็นแฟชั่นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 19 โดย Anna Maria Russel ดัชเชสแห่งเบดฟอร์ด เป็นผู้ริ่เริ่มมื้ออาหารเบาๆ มื้อนี้เพื่อเติมเต็มช่วงเวลา ‘Sinking Feeling’ ก่อนมื้อค่ำจะมาถึง  

เมื่อเวลาผ่านไป วัฒนธรรมการดื่มชายามบ่ายกลายเป็นแฟชั่นและแพร่หลายทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ญี่ปุ่น โดยเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมการดื่มแบบตะวันตกกับฤดูกาลและผลิตผลของญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน ชายามบ่ายในนิยามของญี่ปุ่นจึงร้อยเรียงไว้ด้วยวัฒนธรรม ฤดูกาล และผลิตผลประจำฤดูที่มอบรสชาติ สีสัน และกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น

ฤดูใบไม้ผลิ : นิยมนำดอกซากุระ ดอกไม้แทนฤดูกาลมาเป็นวัตถุดิบหลัก โดยจับคู่กับสตรอเบอรี่ซึ่งมีกลิ่นหอมหวาน

ฤดูร้อน : นิยมนำผลไม้ที่มีรสหวานฉ่ำ อาทิ ลูกพีช องุ่น โยเกิร์ต ไปจนถึงสีสันและกลิ่นหอมอันมีเอกลักษณ์ของลาเวนเดอร์ ก็ถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบของชายามบ่ายในช่วงฤดูร้อน

ฤดูใบไม้ร่วง : นิยมใช้เกาลัด มันม่วง ฟักทอง หรือชาเขียว มาเป็นวัตถุดิบหลักผสานความหวานกลมกล่อมของช็อกโกแลต เป็นการจับคู่ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีตามความอบอุ่นของสีสันของฤดูกาล

ฤดูหนาว : นิยมใช้วัตถุดิบอย่าง พิสตาชิโอ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ไปจนถึงครีมชีส สื่อถึงสีสันอันสดใสและช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของเทศกาลคริสต์มาส

โดยเฉพาะเมื่อฤดูร้อนของญี่ปุ่นเวียนมาถึง เป็นช่วงเวลาของความสดชื่น สดใสของธรรมชาติและดอกไม้นานาพรรณที่พร้อมใจกันผลิดอกออกผลรับฤดูกาลที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมากที่สุดอีกฤดูกาลหนึ่ง ความมีชีวิตชีวารวมทั้งบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนนี้เองจึงเป็นที่มาหนึ่งของการเติมเต็มช่วงเวลาดีๆ นี้ด้วย Afternoon Tea หรือน้ำชายามบ่ายที่มีเอกลักษณ์พิเศษและโดดเด่น 

เมื่อนึกถึงชายามบ่ายแบบญี่ปุ่น ชื่อของ The Okura Prestige Bangkok เป็นลำดับต้นๆ ที่เรานึกถึง ด้วยการเป็นโรงแรมในเครือญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับ และสื่อสารองค์ประกอบความเป็นญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้านวัฒนธรรม หน้าร้อนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ทางโรงแรมได้เปิดตัวชุดน้ำชายามบ่ายลาเวนเดอร์ อันเป็นสีสันประจำฤดูกาลที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร ด้วยเมนูอาหารคาวและขนมหวานในเฉดสีม่วงราวอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์

ไฮไลต์ของชุดน้ำชายามบ่ายในส่วนของคาวอยู่ที่ ทาร์ตไข่นกกระทาผสมมันม่วง ที่เสิร์ฟมาในพอร์ชั่นน่ารัก หวานมันด้วยรสชาติของมันม่วง เนื้อโคลด์คัทสไตล์อิตาลีที่เสิร์ฟบนขนมปังโฮมเมด หรือจะเป็นพายกรอบไส้ปลาแซลมอนท็อปด้วยมูสมันม่วง และอื่นๆ 

ส่วนในพาร์ตของของหวานที่เป็นส่วนสำคัญของเซตชายามบ่ายที่ได้ทีมเชฟขนมหวานมารังสรรค์ขนมหวานหลากชนิดเพื่อเอาใจคนรักขนมหวาน อาทิ มูสบลูเบอร์รีและแบล็กเบอร์รีผสมเข้ากันกับโยเกิร์ต ครีมโรลมันม่วงหวาน มูสบลูเบอร์รีผสมมาสคาโปนชีส เค้กมะพร้าวเนื้อนุ่มผสมมันม่วง และที่พลาดไม่ได้คือมาการองลาเวนเดอร์ซึ่งเป็นขนมซิกเนเจอร์ประจำฤดูกาล

ส่วนสำคัญของ Afternoon Tea จะขาดองค์ประกอบสำคัญอย่างชาชั้นดีไปไม่ได้ เซตชายามบ่ายที่ The Okura Prestige เสิร์ฟชา Mariage Frères ชาสัญชาติฝรั่งเศสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ปี 1854 และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองฤดูกาลของลาเวนเดอร์ ทางโรงแรมเลือกชา Vert Prevence ซึ่งให้กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ผสานกลิ่นกุหลาบ เป็นชาเขียวที่เหมาะอย่างยิ่งกับการดื่มคู่กับเซตอาหารคาวและอาหารหวานใน Afternoon Tea เซตนี้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ ที่พร้อมเสิร์ฟคู่กันอาทิชาประเภทต่างๆ และกาแฟทั้งร้อนและเย็น หรือหากใครไม่นิยมดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก็สามารถสอบถามตัวเลือกเพิ่มเติมจากพนักงานได้เช่นกัน 

Afternoon Tea ในกลิ่นอายของฤดูร้อนและความสดใสของดอกลาเวนเดอร์ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok พร้อมเสิร์ฟแล้วที่ห้องอาหารอัฟ แอนด์ อะบัฟ ในราคาเซตละ 1,950 บาท พร้อมชาหรือกาแฟสำหรับ 2 ท่าน ตั้งแต่เวลา 14.00 - 17.00 น.

Where: Up and Above Restaurant & Bar, The Okura Prestige Bangkok 

When: 14.00 - 17.00 น.

More info: 02-687-9000

อ้างอิง: thespruceeats.com, japan.travel