สรุปเหตุการณ์ #ม็อบ10สิงหา และเหตุปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดง
...
LATEST
Summary
- คาร์ม็อบนำโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จากบริเวณแยกราชประสงค์ ไปยังอาคารชิโนไทย บริษัทธรรมนัส และคิงพาวเวอร์
- มีการทำกิจกรรมสัญลักษณ์ในแต่ละเป้าหมาย และอ่านแถลงการณ์ ‘ประกาศเป้าหมาย นายทุน ขุนศึก ศักดินา และการเมืองหลังระบบประยุทธ์’
- แกนนำประกาศยุติการชุมนุมเวลา 17.06 น. หลังจากนั้นเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจควบคุมฝูงชนและผู้ชุมนุมบางส่วนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง
...
ก่อนถึงวันนัดหมายชุมนุม
วันที่ 10 สิงหาคม 2564 เวลา 13.00 น. บริเวณแยกราชประสงค์ คือจุดนัดหมายการชุมนุมแบบคาร์ม็อบ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ครบรอบ 1 ปี นับจากวันชุมนุมในเวที ‘ธรรมศาสตร์จะไม่ทน’
ก่อนการชุมนุมหนึ่งวัน วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ ‘เพนกวิน’ แกนนำกลุ่มราษฎร ตามที่อัยการสำนักงานคดีอาญา 7 โจทก์ ยื่นคำร้องจากกรณีถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ที่มีเจตนาด้อยค่าหรือลดคุณค่าของพระมหากษัตริย์ และส่งหมายดังกล่าวมายังศาลจังหวัดธัญบุรี ส่งผลให้เพนกวินถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำทันที
นอกจากนี้ ศาลจังหวัดธัญบุรียังยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 แก่ผู้ต้องหา 9 ราย ได้แก่ พรหมศร วีระธรรมจารี, แซม สาแมท, พริษฐ์ ชิวารักษ์, ณัฐชนน ไพโรจน์, สิริชัย นาถึง, ชาติชาย แกดำ, ภาณุพงศ์ จาดนอก, ปนัดดา ศิริมาศกุล และ ธนพัฒน์ กาเพ็ง ในข้อหามั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีจำนวนรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน
กลางดึกคืนวันที่ 9 สิงหาคม 2564 มีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เพนกวินยืนยันว่าไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล บางช่วงบางตอนมีใจความสำคัญว่า
“ให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านได้ทราบอีกครั้ง คำตัดสินให้ฝากขัง และไม่ให้ประกันตัวเราในวันนี้ ปราศจากความชอบธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อหลักการและสามัญสำนึกทั้งสิ้นทั้งปวง เราไม่ยอมรับคำสั่งใดๆ ที่จะออกมาจากศาลนี้
"ระบบยุติธรรมไทยหมดสิ้นแล้ว การไต่สวนพยานในวันนี้ การไต่สวนการฝากขังในวันนี้ ตำรวจก็พูดออกมาชัดเจนว่าฝากขังเราเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เราเคลื่อนไหวทางการเมือง ยังพูดบอกศาลอีกว่า ถ้าปล่อยพวกนี้ไป พวกนี้จะออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก
"เราทำเพื่อประเทศชาติ เราไม่ได้ทำเพื่อการแพร่โรคระบาด นี่คือสิ่งที่รัฐไทยทำให้เห็นว่าการกดขี่ประชาชนด้วยกฎหมาย เป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างเห็นๆ และถูกบันทึกลงในศาลยุติธรรมที่มีการไต่สวนในวันนี้ ศาลที่ชอบธรรม จะต้องเป็นศาลที่ไม่ผิดพลาดและทำด้วยความยุติธรรมเพื่อประชาชน ดังนั้น เราจะไม่ยอมรับคำตัดสินนี้ กฎหมายนี้สิ้นความชอบธรรมไปแล้ว”
ระหว่างเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องขังทั้งหมดขึ้นรถ ผู้เฝ้าดูสถานการณ์ด้านนอกถ่ายคลิปวิดีโอผ่านรั้วกั้น เผยให้เห็นความวุ่นวาย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำนวนมาก มีเสียงตะโกนของเพนกวินโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ ประชาชนบางส่วนที่รออยู่ด้านนอกคาดเดาว่า เพนกวินพยายามแสดงอารยขัดขืน ด้วยการไม่ยอมขึ้นรถผู้ต้องขัง ต่อมา มีคนเห็นเพนกวินนอนอยู่ที่พื้นและยังคงตะโกนโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ ก่อนมีเสียงเพนกวินตะโกนดังออกมาว่า “ช่วยด้วย หายใจไม่ออก"
#ม็อบ10สิงหา
ช่วงเช้าของวันที่ 10 สิงหาคม 2564 พลตำรวจเอกจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พลเอกตรีธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.จร ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการนัดรวมกลุ่มชุมนุมในวันนี้ อาทิ ถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 และถนนเพลินจิต นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางหลายสาย เช่น สามเหลี่ยมดินแดง เส้นถนนวิภาวดี-รังสิต
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่าการชุมนุมดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และได้เตรียมกำลังเอาไว้ 5 กองร้อย ส่วนในพื้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผู้พบเห็นรถฉีดน้ำแรงดันสูง 1 คัน เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำนวนมาก รวมถึงรถควบคุมผู้ต้องขัง และมีการปิดสกายวอล์กฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์
เมื่อถึงเวลานัดหมาย มีประชาชนนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าร่วมเต็มถนนราชประสงค์ ก่อนจะเริ่มเคลื่อนพลมุ่งจากแยกราชประสงค์ เลี้ยวไปยังถนนเพลินจิต ไปจุดพักที่ 1 ซิโนไทย ทาวเวอร์ ของบริษัท บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ระหว่างทาง วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ‘ตี้ พะเยา’ ประกาศผ่านเครื่องเสียงบอกประชาชนโดยรอบว่า “เราขอใช้เส้นทางเพียงแค่ไม่กี่นาที ขบวนของเรามาไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” และเมื่อมาถึงบริเวณหน้าตึก ซิโน-ไทย ทาวเวอร์ เบนจา อะปัญ อ่านแถลงการณ์ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เรื่อง ‘ประกาศเป้าหมาย นายทุน ขุนศึก ศักดินา และการเมืองหลังระบบประยุทธ์’ ในถ้อยแถลงระบุถึง 5 สิ่งที่ต้องเร่งทำให้ได้ คือ
1. ควบคุมสถานการณ์โรคระบาดให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนในชาติได้รับการตรวจ รักษา และป้องกันโรคระบาดได้อย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่เสียเวลาลงทะเบียนและขั้นตอนที่ยาวนาน เสียจนเป็นการฆ่าคนตาย อย่างขั้นตอนในระบบราชการ
2. แก้ไขวิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพและดำรงชีวิตได้โดยปกติสุข
3. ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นเพื่อเป็นช่องทางให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สืบทอดอำนาจของตน และร่างรัฐธรรมนูญประชาชนขึ้นใหม่ทั้งฉบับ
4. ผลักดันให้เกิดการปฏิรูปโครงสร้างสถาบันการเมือง สถาบันกองทัพ สถาบันศาล สถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงสถาบันอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ และประเทศมีประชาธิปไตย
5. ประเคนคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ประชาชนเดี๋ยวนี้
เมื่ออ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้น แกนนำแจกจ่ายกระดาษแถลงการณ์ให้ผู้ชุมนุม ก่อนโปรยเต็มพื้นถนน จากนั้นสาดเลือดหมูหน้าป้ายซิโนไทยทาวเวอร์ และวางตุ๊กตาหัวกลมคล้ายตุ๊กตาไล่ฝน ที่ทางผู้ชุมนุมระบุว่าเป็นสัญลักษณ์แทนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ก่อนรถเครื่องเสียงจะประกาศจุดหมายถัดไปคือ บริษัท ธรรมนัส กรุ๊ป ถนนพระราม 9
เมื่อมาถึง แรกเริ่มแกนนำให้ผู้ชุมนุมเดินเข้าไปในซอยที่ตั้งของบริษัท ทว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนเขวี้ยงประทัดใส่เจ้าหน้าที่ และด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีน้อย จึงทำให้เกิดการล่าถอยออกจากบริเวณหน้าตึกสำนักงาน ก่อนรถเครื่องเสียงจะประกาศเรียกให้มวลชนกลับเข้าขบวน เนื่องจากเสี่ยงเกิดการปะทะ
เวลาไล่เลี่ยกัน ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ ‘รุ้ง’ ทวีตข้อความว่า “ให้ฟังเสียงรถปราศรัยเป็นสำคัญ” และ “มวลชนอย่าออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้” ก่อนแกนนำจะประกาศจุดพักลำดับที่ 3 คือ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ก่อนทิ้งหุ่นขนาดห่อผ้าสีขาวขนาดเท่าคนจำนวนมากไว้ตรงถนนพระราม 9
หลังเดินทางออกจากบริษัท ธรรมนัส กรุ๊ป ราวครึ่งชั่วโมง เวลาประมาณ 16.30 น. รุ้งทวีตข้อความอีกครั้งว่า ขอให้มวลชนใช้อุปกรณ์ตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากมีผู้ชุมนุมบางส่วนขว้างประทัดใส่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่ตั้งขบวนอยู่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ฝั่งถนนวิภาวดี-รังสิต
มวลชนจำนวนมากในขบวนพยายามให้ผู้ชุมนุมใกล้กับ คฝ. กลับเข้าขบวน และมุ่งหน้าต่อไปยัง คิง เพาเวอร์ โดยหัวขบวนไปถึงประมาณ 16.50 น. มีผู้ชุมนุมบางส่วนนำแมลงสาบมาปล่อยหน้าสำนักงาน สาดสีแดงใส่ป้าย และวางหุ่นที่เป็นสัญลักษณ์แทนศพทิ้งไว้ ส่วนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ยังคงมีผู้ชุมนุมปักหลักอยู่ ทำให้รถเครื่องเสียงของเจ้าหน้าที่ประกาศว่า “สิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ เป็นการยั่วยุทำให้เกิดปัญหาในบ้านเมือง ผิดกฎหมาย” ก่อนมีการประกาศอีกว่าหากไม่ฝ่าแนวเข้ามาก็จะไม่ทำอะไร
เวลา 17.02 น. รุ้งทวีตข้อความว่า “วันนี้เราจะจบกิจกรรมที่คิงเพาเวอร์ เมื่อเสร็จกิจกรรมแล้วขอให้มวลชนทุกคนกลับบ้านโดยทันที ฟังเสียงรถปราศรัยและจากแนวร่วมธรรมศาสตร์เป็นสำคัญค่ะ” ก่อนแกนนำบริเวณหน้า คิง เพาเวอร์ ประกาศยุติการชุมนุมเวลา 17.06 น. ขณะเดียวกันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงมีการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางแล้ว
ชุลมุนแยกสามเหลี่ยมดินแดง
เวลา 17.30 น. ผู้ชุมนุมนำรั้วกั้นของเจ้าหน้าที่ขว้างใส่กระจกป้อมตำรวจบริเวณสามแยกดินแดง ก่อนด้านในป้อมตำรวจเกิดไฟลุกไหม้ มีการยิงแก๊สน้ำตาหลายระลอก เจ้าหน้าที่บางส่วนขึ้นไปยิงกระสุนยางบนทางด่วน ปิดถนนเพิ่มแล้วหลายเส้นทาง และรถฉีดน้ำแรงดันสูงพยายามดับไฟตรงป้อมไม่ให้เพลิงไหม้ลุกลาม
เวลา 17.50 น. เจ้าหน้าที่เริ่มล้อมกรอบต้อนผู้ชุมนุมไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บางส่วนย้ายมาทางฝั่งดินแดง ต่อมาเวลา 17.58 น. เจ้าหน้าที่ประกาศอีกครั้งว่า “แจ้งเตือน การกระทำของท่านวันนี้ ผิดกฎหมายอาญา ผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการทำลายทรัพย์สินราชการ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำลายทรัพย์สินประชาชน รถควบคุมผู้ต้องหาเตรียมพร้อม หากท่านไม่แยกย้าย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องจับกุม ควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะปกติ” ก่อนสั่งให้ คฝ. โหลดกระสุน ท่ามกลางเสียงโห่ของผู้ชุมนุม
เวลา 18.16 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเจ้าหน้าที่ คฝ. นายหนึ่ง กำลังยืนโต้เถียงกับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่โดยไม่ทราบสาเหตุ มีการชี้หน้ากัน ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปประจำแถว
เวลา 18.23 น. เจ้าหน้าที่ประกาศขออภัยประชาชนโดยรอบ แจ้งว่ามีเหตุวางเพลิง กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ และขอให้สื่อมวลชนถอยหลังมาอยู่ในแนวเพื่อความปลอดภัย ต่อมาเวลาประมาณ 18.48 น. สถานการณ์บริเวณแยกดินแดง ฝั่งแฟลชดินแดง มีผู้ชุมนุมใช้หนังสติ๊กยิงเข้าหาเจ้าหน้าที่ คฝ. โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้กระสุนยางตอบโต้เป็นระยะ และยังไม่ได้เคลื่อนเข้าไปกดดันหรือผลักออกจากพื้นที่ ยังคงตั้งแนวป้องกันไว้ที่สามเหลี่ยมดินแดงอยู่
เวลา 19.13 น. มีเจ้าหน้าที่ คฝ. แจ้งต่อสื่อมวลชนว่าพบผู้ชุมนุมบางส่วนใช้กระสุนจริง และมีการยิงออกมาจากฝั่งผู้ชุมนุม ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังขณะอยู่ในแนว ก่อนมีการประกาศจากฝั่งมวลชนว่าให้ทุกคนเดินไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากใกล้ถึงเวลาเคอร์ฟิว ส่วนด้านถนนราชปรารถ เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาอีกหลายครั้งเพื่อเข้ากระชับพื้นที่
เวลา 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งบริเวณถนนดินแดงได้เป็นจำนวนมาก มีประชาชนบางส่วนเดินเข้ามาขอรถคืน แต่ถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ชั่วคราว เนื่องจากต้องใช้เวลาตรวจสอบว่าเป็นประชาชนในพื้นที่ ประชาชนที่สัญจรไปมา หรือเป็นผู้ชุมนุม และตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย หากไม่มีอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะคืนรถจักรยานยนต์ให้
เวลา 19.37 น. เกิดเพลิงไหม้ในป้อมตำรวจ เกาะพญาไท อนุสาวรียชัยสมรภูมิ และรถฉีดน้ำแรงดันสูงเคลื่อนตัวไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ เพื่อเร่งควบคุมพื้นที่ทั้งหมด
