ลำบาก
...
LATEST
Summary
- ทวี พนักงานธุรการที่ดูไม่มีที่ทางให้ก้าวหน้าไปไหน อ่านเจอข่าวการปล้นร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ระดับประเทศ โดยอดีตนักวิจัยพันธุ์พืชที่ล้มเหลวในการทำธุรกิจ เลยนึกไปถึงชีวิตตนว่า เขาเองก็ลำบากเหมือนกัน
...
หมายเหตุ : เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องแต่ง
เจอข่าวนี้แล้วผมก็อึ้ง
ตอนแรกก็นึกว่าเป็นแค่ข่าวปล้นร้านสะดวกซื้อธรรมดาๆ ก็โธ่! ตอนนี้ใครๆ ก็จน ใครๆ ก็ลำบากกันทั้งนั้น แต่บางคนถึงลำบากแค่ไหน ก็ยังพอมีที่ให้เอาหลังไปพิง พอมีบ้าน มีครอบครัว มีเงินทุนอุดหนุนจากกงสี ยิ่งใครที่มีกงสีใหญ่ๆ หน่อย ต่อให้ตัวเองถูกไล่ออกจากงาน หรือธุรกิจที่ทำมันเจ๊งๆ ไปบ้าง ก็ยังพอมีครอบครัวมาอุดหนุนจุนเจืออยู่
เคยเห็นอยู่นะ บางคนบอกลำบากๆ แต่ก็ยังมีกิน ยังมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมใส่อยู่น่ะ ซึ่งไม่ได้แปลว่าเขาไม่ลำบากนะ เขาก็ลำบากแหละ แต่ยังพอมีต้นทุนอยู่ ก็เลยดูเหมือนไม่ลำบากเท่าไร
แต่ข่าวที่อ่านนี่สิ ข่าวคนปล้นร้านสะดวกซื้อคนนี้ ปล้นแล้วก็ไม่สำเร็จด้วยนะ เห็นเขาว่าถือปืนเข้าไปยืนหงอยๆ อยู่ในร้าน คนข้างหลังถือของหนักเข้าคิวจะรอซื้อ ก็ยังไปเกรงใจเขาอีก สุดท้ายพอควักปืนออกมา พนักงานกลับไวกว่า วิ่งหนีเข้าหลังร้านไปเลย
อ้าว! ฉิบหายเอ๊ย เงินทองอะไรก็ไม่ได้ เพราะมันติดล็อกอยู่ ไม่มีพนักงาน คนซื้อของก็แตกตื่น แล้วจะทำยังไงล่ะ ก็ต้องกลับบ้านไปมือเปล่า จะปล้นก็ปล้นไม่ได้อะไรสักกะบาท บ้าบอจริงๆ
แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้นน่ะสิ เพราะพอไปปล้นเขา แถมยังเป็นร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ระดับซื้อประเทศนี้ได้อีก มีหรือเขาจะยอมปล่อยไปเปล่าๆ ปลี้ๆ แถมทำผิดแล้ว ยังไงก็ต้องตามจับกันละ นั่นทำให้ตำรวจตามไปจับถึงบ้าน เพราะมีทั้งกล้องวงจรปิด มีทั้งหลักฐานอะไรต่างๆ
แต่ไอ้ที่เศร้ามันตรงนี้นี่แหละคุณเอ๋ย เพราะอีตาโจรปล้นร้านสะดวกซื้อที่ว่า ไม่ได้เป็นโจรมาแต่อ้อนแต่ออกอย่างที่หลายคนชอบพูดคำว่า ‘สันดานโจร’ หรืออาจจะพานเชื่อว่า คนเรามันเป็นโจรเพราะมีพันธุกรรมโจรฝังอยู่ในร่างหรอกนะ
อีตาโจรคนที่ว่าน่ะ ถึงขั้นเรียนจบปริญญาโทด้วยซ้ำ แล้วที่สำคัญก็คือ น่าจะเก่งด้วย เพราะได้เข้าไปทำงานเป็นนักวิจัยพันธุ์พืชในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แถมยังร่วมวิจัยจนทำให้เกิดพันธุ์ข้าวโพดพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะดีงาม คือคงจะทั้งอร่อย หวานมันอะไรแบบนั้น
ก็ตามประสา พองานวิจัยสำเร็จ เขาก็เลยลาออก แล้วคิดว่าจะมาตั้งบริษัท ทำธุรกิจปลูกข้าวโพดพันธุ์ดังกล่าว โดยให้เกษตรกรมาปลูกแล้วก็รับซื้อ จะได้เอาไปทำโน่นนั่นนี่แล้วขายต่อ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ข้าวโพด
งานนี้คืองานใหญ่ของชีวิต ที่เขาทุ่มลงไปหมดตัว ใช้เงินเก็บทั้งหมดลงทุนไปจนเกลี้ยงกระเป๋าเลย มันคือความเสี่ยงนั่นแหละ มนุษย์เราล้วนเกิดมาเสี่ยงทั้งนั้น แต่เขาคงเห็นแล้วว่า มันน่าจะสร้างผลตอบแทนให้อย่างงาม และเขาก็จะประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่ชั่วข้ามคืน ทุกอย่างก็วินาศ เพราะโควิด-19 มันระบาด ทำให้ธุรกิจของเขาล้มเหลว ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันล้มเหลวยังไงบ้าง ไม่รู้เขาไปกู้เงินใครมาบ้างหรือเปล่า สุดท้ายเลยไม่เหลืออะไรติดตัวเลย คือไม่มีแม้กระทั่งเงินกินข้าว
ก็เลยต้องมาปล้นร้านสะดวกซื้อ
ไม่ได้ปล้นเพื่อจะรวย แต่ปล้นเพื่อหวังแค่จะได้เงินเอาไปซื้อข้าวกินเท่านั้น
ชีวิตทำไมมันถึงเศร้าแบบนี้ (วะ) อ่านข่าวนี้แล้วอยากสบถ อยากด่าคน อยากด่าพระเจ้าที่สร้างโลกให้มันเป็นแบบนี้
ใครๆ ก็ลำบากกันทั้งนั้นแหละ เพื่อนคนหนึ่งบอกผม ซึ่งก็จริง เพราะหันมาดูตัวเองตอนนี้ ถึงไม่ได้ลงทุนควักกระเป๋าเอาเงินเก็บไปใช้เหมือนหนุ่มในข่าว (เพราะเงินเก็บน่ะ ไม่มีหรอก) แต่ผมก็แทบไม่มีเงินกินข้าวแล้วเหมือนกัน
ลำบากไหม ลำบากสิ ลำบากฉิบหายเลยด้วย
ไม่มีใครไม่ลำบากหรอก แล้วนั่นแหละ ผมเลยไม่แปลกใจนักหรอกที่จะมีคดีปล้นเปล้ินอะไรเยอะขึ้นน่ะ
สงสัยก็แค่ว่า ไอ้คนที่ไม่ได้ลำบากจริงๆ แต่มาบอกว่าตัวเองลำบากน่ะ ทำไมมันชอบลำเลิกบุญคุณคนอื่นจังวะ
ทวี
คนทำงานออฟฟิศธรรมดาๆ คนหนึ่ง งานของเขาคืองานธุรการ คอยรับส่งเอกสาร มันเป็นงานที่ไม่ทำให้เขาก้าวไปไหน ไม่มี Career Path ให้ใฝ่ฝัน แต่ทวีก็ยังฝัน เขาฝันอยากได้รถกระบะสักคัน เก็บเงินเอาไว้ดาวน์ ถ้าได้รถ เขาก็เห็นลู่ทางทำมาหากิน จะขับรถตระเวนไปขายของตามที่ต่างๆ แต่ฝันของเขาก็สะดุดหยุดลง ตอนนี้ออฟฟิศปิด เขาไม่ได้ถูกเลิกจ้าง แต่ก็ถูกลดเงินเดือน โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นให้ Leave without pay แต่เขาก็เคว้งไม่น้อย เงินทุกบาทต้องเขียมเอาไว้ เพราะจำนวนหนึ่งต้องส่งไปให้พ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัดด้วย โชคดีที่เขาไม่มีหนี้ แต่แค่ค่าเช่าห้อง, ค่าน้ำค่าไฟ, ค่ากิน ก็แทบไม่เหลือเก็บแล้ว
