พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ หลังอยู่ในตำแหน่ง 5 ปี 5 เดือน 5 วัน

วันที่ 18 ตุลาคม 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่ 64/2559 ให้ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จากนั้นได้แต่งตั้ง พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ กทม. แทน 

นั่นคือก้าวแรกสู่ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. จากการแต่งตั้งของพลตำรวจเอกอัศวิน นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 5 ปีกว่าๆ ซึ่งถือว่าเกินกว่าวาระปกติของผู้ว่าฯ จากการเลือกตั้งที่กำหนดไว้ 4 ปี 

จากผู้ว่าฯ สายแต่งตั้ง เมื่อประตูสู่ ‘สนามเลือกตั้ง’ เปิดออกอย่างเป็นทางการ หลังจากแค่เกือบมาหลายครั้งในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งมาเป็นอดีตผู้ว่าฯ เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ คนใหม่ และย้ำว่าพร้อมสานงานเก่า ก่องานใหม่ #กรุงเทพฯต้องไปต่อ

วันที่ 28 มีนาคม 2565 พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง แถลงข่าวเปิดตัวลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามผู้สมัครอิสระ ณ โกดังเสริมสุข เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยมีนโยบายหลัก 8 ข้อ ที่เป็น ‘กรุงเทพฯ 8 ต่อ’ เพื่อขับเคลื่อน ไปต่อ เพื่อความปลอดภัย สงบสุข ให้คนเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น 

ต่อที่ 1 แก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพราะอยากเห็นเมืองกรุงเทพฯ มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมที่ลดลง ซึ่งลดไปแล้วจาก 24 จุด เหลือ 9 จุด 

ต่อที่ 2 สร้างความสะดวกในทุกการเดินทาง เพราะอยากเห็นคนกรุงเทพฯ คนเดินเท้าปลอดภัย ระบบขนส่งมวลชนสะดวก และสร้างความเชื่อมโยง 

ต่อที่ 3 ส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับ ‘คนเมืองหลวง’ และระบบการรักษาที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะอยากเห็นเมืองกรุงเทพฯ มีที่รักษาพยาบาลใกล้บ้านและครอบคลุมทุกพื้นที่ ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม

ต่อที่ 4 สร้างสิ่งแวดล้อมเมืองที่ดี เพราะอยากเห็นเมืองกรุงเทพฯ เพิ่มพื้นที่สีเขียว จัดการขยะที่ต้นทาง มีคลองสวยน้ำใส

ต่อที่ 5 ทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ เพราะอยากเห็นลูกหลานและคนกรุงเทพฯ มีความพร้อมสมบูรณ์ทั้งกายและใจในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้นจะได้รับการศึกษาทั้งทักษะอาชีพและความรู้พร้อมกันไป

ต่อที่ 6 เติมเต็มความปลอดภัยให้กับคนเมือง เพราะอยากเห็นเมืองกรุงเทพฯ มีอาชญากรรมลดลง และมีการเตรียมพร้อมขจัดภัยพิบัติ 

ต่อที่ 7 เชื่อมกรุงเทพฯ สู่เมืองดิจิทัล เพราะอยากเห็นคนกรุงเทพฯ ได้รับบริการจากหน่วยงานราชการของกรุงเทพฯ ที่โปร่งใส เชื่อมโยง และรวดเร็ว 

ต่อที่ 8 ดูแลคนทุกกลุ่มทุกวัย เพราะอยากเห็นบริการและสวัสดิการชุมชนทั่วถึง 

“นโยบายสวยหรู ถ้าไม่นำไปสู่การปฏิบัติ ไร้สาระ ไร้ประโยชน์” คือถ้อยคำเน้นย้ำของการเป็นนักปฏิบัติที่พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวในคลิปวิดีโอเปิดตัว ซึ่งแสดงผลงานที่อดีตผู้ว่าฯ ทำมาตลอด 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ในหลายด้าน ทั้งสร้างและปรับปรุงถนน เชื่อม BTS เส้นทาง 3 จังหวัด เพิ่มการเดินทางทางน้ำ ลดความแออัดของการจราจร เริ่มทางเท้าต้นแบบ นำสายสื่อสารลงดิน การปรับปรุงคลองโอ่งอ่าง และลดพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วมจาก 24 จุด เหลือ 9 จุด

“ผมว่าคนเขียนนโยบายมันเยอะ แต่คนทำมันไม่มี ผมอยากจะไปทำต่อให้จบ” และกล่าวถึงเจตนารมณ์ของการลงสนามเลือกตั้งเพื่อสานงานต่อว่า

พลตำรวจเอกอัศวิน ย้อนถึงการทำงานที่ผ่านมาว่า บางปัญหาจะแก้ไขได้ ต้องใช้เวลาและการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ปัญหาหลายด้านเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จึงขออาสาประชาชนชาวกรุงเทพฯ เข้ามาทำงานสานต่อนโยบายต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ

“ผมไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือจะเป็น คนดีๆ เก่งๆ เยอะแยะเลยนะ เลือกเขาก็ได้ แต่ถ้าเลือกเขาแล้วมันนำไปสู่การปฏิบัติไม่ได้ ก็เลือกอัศวินแล้วกัน …จบ”

พลตำรวจเอกอัศวิน ลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในนามผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมือง แม้จะเคยมีกระแสข่าวว่า พรรคการเมืองใหญ่คอยช่วยหนุนหลัง โดย พลตำรวจเอกอัศวิน ย้ำว่า 

“ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคือการบ้าน ไม่ใช่การเมือง ผมยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า อัศวิน ขวัญเมือง อิสระอย่างแท้จริง”

“ไม่ได้แอบอิงการเมืองพรรคหนึ่งพรรคใดที่มีอยู่ในประเทศไทย ผมมีเอกภาพในการทำงาน ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง พร้อมทั้งทีมงานของผม”

สำหรับนโยบายทั้ง 8 ด้าน พลตำรวจเอกอัศวินยังเน้นถึงการปฏิบัติและลงมือทำจริง โดยบอกว่า การทำงานไม่ใช่การลองผิดลองถูก

“ทั้ง 8 ด้าน เราจะทำอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่มาลองผิดลองถูกกันตลอดเวลา แล้วก็ให้ลองใหม่ ถามว่าทำได้ไหม ได้ แต่มันไม่ดี ต้องลองทำจริงเลยนะครับ ใครจะลองใครจะอะไรไม่รู้ อัศวินทำจริงครับ”

นอกจากการเปิดนโยบายหลัก ทีมของอดีตผู้ว่าฯ กทม. ยังชูแนวคิดให้คนรุ่นใหญ่ทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ โดยการเปิดตัวทีม ‘คนลุยเมือง’ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้มีความรู้และความถนัดในหลายสาขา ที่เคยร่วมงานกับพลตำรวจเอกอัศวิน ในสมัยเป็นผู้ว่าฯ 

- ด้านคมนาคม จิรวัฒน์ จังหวัด ร่วมออกแบบ รถ BMV Feeder และเชื่อมต่อการเดินทางในกรุงเทพฯ

- ด้านการศึกษา ณภัทร วัชราภรณ์ ที่ปรึกษานโยบายสาธารณะ 

- ด้านกีฬาและกิจกรรมเยาวชน ปุณยวีร์ ประดิษฐ์พงศ์ ผู้ผลักดันสนามสเกตสวนรถไฟ

- ด้าน universal design สิทธิผู้พิการ สว่าง ศรีสม นักเคลื่อนไหวด้านการเข้าถึงของคนทั้งมวล

- ด้านการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บวรลักษณ์ ทองมาก นักวิจัยด้านนโยบายสาธารณะ 

- ด้านบริการสาธารณสุข ชมพูนุท พันธศรี หนึ่งในผู้ผลักดันรถ BMV 

- ด้านชุมชนเข้มแข็ง ธวัช ศรีวัฒนะ นักชุมชน/ ผู้สมัคร ส.ก. รักษ์กรุงเทพ

หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงนโยบาย และเปิดตัวทีมงาน พลตำรวจเอกอัศวินได้เตรียมตัวลงพื้นที่หาเสียงทันที โดยมีเป้าหมายว่าจะเข้าไปทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กทม. อีกวาระหนึ่ง