ย้อน 4 มาตรการนายกฯ แก้ปัญหาอาวุธปืน หลังสันติบาลรัวกระสุนย่านสายไหม
...
LATEST
Summary
- เกิดเหตุการณ์ตำรวจชายยิงปืนขึ้นฟ้าและรัวกระสุนในเขตสายไหม บริเวณบ้านมั่นคง 2 ซอยจีระมะกร เขตสายไหม และทางตำรวจ สน.สายไหม พร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษสันติบาล เข้าตรวจสอบและปิดล้อมพื้นที่
- ภายหลังพบว่าตำรวจคนดังกล่าว คือ พันตำรวจโทกิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี เป็นตำรวจตำแหน่งสารวัตร กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และทางเพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า ตำรวจคนนี้มีอาการทางจิต และเครียดปัญหาชีวิต
- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยออก ‘มาตรการเร่งด่วน’ แนวทางแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติดทั้งหมด 4 ข้อ คือ 1. มาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน 2. มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 3. มาตรการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด 4. การพัฒนาและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต
...
จากเกิดเหตุการณ์ตำรวจชายยิงปืนขึ้นฟ้าและรัวกระสุน บริเวณบ้านมั่นคง 2 ซอยจีระมะกร เขตสายไหม และทางตำรวจ สน.สายไหม พร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษสันติบาล เข้าตรวจสอบและปิดล้อมพื้นที่
ภายหลังพบว่าตำรวจคนดังกล่าว คือ พันตำรวจโทกิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี เป็นตำรวจตำแหน่งสารวัตร กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และทางเพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า ตำรวจคนนี้มีอาการทางจิต และเครียดปัญหาชีวิต
ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่เข้าเจรจาโดยมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดและยังควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สังคมเกิดคำถามว่าทำไมถึงยังคงเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ทั้งยังสะท้อนไปถึงเหตุการณ์ เมื่อปลายปี 2565 ในเหตุการณ์ ‘กราดยิงหนองบัวลำภู’ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ทำให้มีเด็กเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดจากผู้ก่อเหตุถูกขับออกจากข้าราชการ ‘ตำรวจ’ เนื่องจากปัญหายาเสพติด
โดยภายหลังเกิดเหตุ ภาครัฐได้มีการเยียวยา และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมเพื่อออก ‘มาตรการเร่งด่วน’ วันที่ 12 ตุลาคม หลังเหตุเกิดไปแล้ว 6 วัน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติดทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่
1. มาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน
- กวดขันการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน และกระสุนปืนอย่างเข้มงวดในการออกใบอนุญาต การต่อใบอนุญาตและการพกพา
- ผู้ยื่นคำขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตรงตามกฎหมาย มีการตรวจสอบและรับรองทางจิตว่าไม่เป็นผู้วิกลจริต จิตฟั่นเฟือน
- สำหรับในส่วนความประพฤติหรือพฤติกรรมต้องได้รับการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ว่าไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม และมีมาตรการตรวจสอบทบทวนเพื่อพิจารณาคุณสมบัติในทุกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม
- เพิกถอนใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน เมื่อพบปัญหาทางจิต พฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม การใช้ยาเสพติด และมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม
- กวาดล้างจับกุมอาวุธเถื่อนและการซื้อขายออนไลน์อย่างจริงจัง
- ทบทวนกฎหมายที่จำเป็นให้มีความทันสมัย
2. มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
- ควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมีที่นำไปใช้ผลิตยาเสพติด “โซเดียมไซยาไนด์”
- เร่งติดตาม สืบสวนขยายผล ทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและยึดอายัดทรัพย์สิน
- บูรณาการนำผู้เสพเข้าระบบศูนย์ข้อมูลที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
- ทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยเฉพาะประเด็นปริมาณการครอบครอง เพื่อนำไปสู่การบำบัดฟื้นฟู
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
3. มาตรการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
- ค้นหา คัดกรองผู้ป่วย SMIV เข้าสู่สถานฟื้นฟูฯ ภาคีเครือข่าย
- เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครอบคลุมทุกตำบล ทั้ง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และสถานบำบัดรักษาที่มีมาตรฐานสากล
- บูรณาการการบำบัดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community Based Treatment) ให้ครอบคลุมทุกตำบล
- พัฒนาพฤตินิสัย ร่วมกับการบำบัดฟื้นฟู โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่อความรุนแรง หรือเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง และใช้กำไล EM เพื่อการติดตามดูแล
4. การพัฒนาและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต
- จัดตั้งระบบดูแลสุขภาพจิตใน โรงเรียนและสถานศึกษาทุกแห่ง / สถานประกอบกิจการที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน / หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรง
- ทำการบำบัดฟื้นฟูทันที โดยจัดตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดทุกอำเภอ จัดตั้งหน่วยบูรณาการ จิตเวชฉุกเฉินทุกอำเภอ ระบบดูแลเบื้องต้นทางจิตเวชทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
- ใช้ชุมชนบำบัด เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการรักษาจิตเวชทางไกล การดูแลต่อเนื่องในชุมชนในผู้ป่วยจิตเวชเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรง
อ้างอิง : thaigov.go.th , thairath.co.th
