Humberger Menu

กบฏ ‘วากเนอร์กรุ๊ป’ จบแล้ว ปฏิบัติการ ‘กอบกู้ชื่อเสียงปูติน’ เพิ่งเริ่ม

-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

Politics & Society

World

Global Affairs

28 มิ.ย. 66

creator
อภิรดา มีเดช
BookmarkLineCopy
-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

...

Summary
  • การยึดอำนาจที่จบอย่างงงๆ เมื่อ เยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้าหน่วยทหารรับจ้างทรงอิทธิพลของรัสเซีย ‘วากเนอร์กรุ๊ป’ ล่าสุด มีรายงานว่า หัวหน้าวากเนอร์กรุ๊ปอยู่ในประเทศเบลารุสตั้งแต่คืนวันอังคาร
  • ผ่านมาแล้วสองวัน ทว่าสถานการณ์ยังคงคุกรุ่น แม้ทางการรัสเซียจะไม่ดำเนินคดีอาญากับผู้นำการก่อกบฏ แต่ไม่อาจมีอะไรการันตีความปลอดภัยให้กับผู้นำวากเนอร์กรุ๊ปในดินแดนมิตรของผู้นำรัสเซีย
  • ขณะที่ NATO กล่าวว่า เหตุการณ์ในรัสเซียสะท้อนความอ่อนแอของผู้นำและความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ แต่ยืนยันจะไม่แทรกแซง เพราะเป็นเรื่องภายในของรัสเซีย

...


เป็นการยึดอำนาจที่จบอย่างงงๆ เมื่อ เยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้าหน่วยทหารรับจ้างทรงอิทธิพลของรัสเซีย ‘วากเนอร์กรุ๊ป’ (Wagner Group) ประกาศยุติการยึดอำนาจในค่ำวันเสาร์ หลังจาก อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้นำเบลารุส เข้ามาเป็นตัวกลางเจรจา ประกาศนิรโทษกรรมและให้ที่หลบภัย ล่าสุด ผู้นำเบลารุส กล่าวว่า หัวหน้าวากเนอร์กรุ๊ปอยู่ในประเทศเบลารุสตั้งแต่คืนวันอังคาร

ผ่านมาแล้วสองวัน ทว่าสถานการณ์ยังคงคุกรุ่น แม้ทางการรัสเซียจะไม่ดำเนินคดีอาญากับผู้นำการก่อกบฏ แต่ไม่อาจมีอะไรการันตีความปลอดภัยให้กับผู้นำวากเนอร์กรุ๊ปในดินแดนมิตรของผู้นำรัสเซียได้

ขณะที่ NATO กล่าวว่า เหตุการณ์ในรัสเซียสะท้อนความอ่อนแอของผู้นำและความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ แต่ยืนยันจะไม่แทรกแซง เพราะเป็นเรื่องภายในของรัสเซีย

สรุปความคืบหน้าล่าสุด และพยายามหาคำตอบสำคัญว่า เส้นทางอำนาจของผู้นำสูงสุดที่ดำเนินมา 23 ปี จะสะดุดลงตรงนี้หรือไม่?

 

วันจันทร์

เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO กล่าวว่า การก่อกบฏของวากเนอร์กรุ๊ปที่ถูกยกเลิกไปแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของผู้นำรัสเซีย และเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญในการทำสงครามกับยูเครน

“เหตุการณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องภายในของรัสเซีย และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี (วลาดิเมียร์) ปูตินผนวกไครเมียอย่างผิดกฎหมาย และการทำสงครามกับยูเครน” สโตลเทนเบิร์กกล่าว

“แน่นอนว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ” เขา กล่าวเสริม “ยังแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของระบอบการปกครองของรัสเซีย แต่นาโตจะไม่แทรกแซงในประเด็นเหล่านั้น เพราะเป็นเรื่องภายในของรัสเซีย”

สโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า นาโตติดตามสถานการณ์ในเบลารุส และประณามการประกาศของทางการรัสเซียที่จะติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ที่นั่นอีกครั้ง

“เราไม่เห็นข้อบ่งชี้ใดๆ ว่ารัสเซียกำลังเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่นาโตยังคงเฝ้าระวัง” เขา กล่าว พร้อมเสริมว่าการป้องปรามของนาโตนั้นแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนปลอดภัยใน ‘โลกที่อันตรายมากขึ้น’

ขณะเดียวกัน สโตลเทนเบิร์กให้ความมั่นใจกับทางการยูเครนถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และเขาอยู่ที่ลิทัวเนียเพื่อเข้าร่วมการฝึกซ้อม และทดสอบการเสริมกำลังอย่างรวดเร็วของกลุ่มสมาชิกนาโตที่นำโดยเยอรมนี เป็นหน่วยกำลังเสริมจำนวน 5,000 นาย ซึ่งจะบังคับใช้ในกรณีที่สถานการณ์ตึงเครียดสูงขึ้น หรือชาติสมาชิกเกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ ‘พันธมิตรสำคัญ’ หลังจากเกิดเหตุการณ์ และต่างเห็นพ้องกันว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้ประธานาธิบดีรัสเซีย “ไม่มีข้อแก้ตัวที่จะโทษว่าเป็นการกระทำของตะวันตก”

“เราชี้แจงชัดเจนว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ภายในระบบของรัสเซีย” ไบเดน กล่าว

ขณะที่จีนมองข้ามการจลาจลของวากเนอร์กรุ๊ป และสื่อในจีนอธิบายว่านี่คือ ‘ภาพลวงตา’ จากฝีมือของตะวันตก

กระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า พวกเขาสนับสนุนรัสเซียในการรักษาเสถียรภาพของประเทศ โดยไม่มีการกล่าวถึงความเป็นผู้นำของปูตินอย่างชัดเจน

ในการปรากฏตัวอีกครั้งนับตั้งแต่เกิดความวุ่นวายช่วงสุดสัปดาห์ ประธานาธิบดีปูติน กล่าวปราศรัยต่อบรรดาวิศวกรที่เข้าร่วมงานประชุมอุตสาหกรรม ซึ่งผู้นำรัสเซียยกย่องอย่างฟุ่มเฟือยต่อการมีส่วนร่วมของเหล่าวิศวกรต่อเศรษฐกิจรัสเซีย และนายกรัฐมนตรี มิคาอิล มิชูสติน ขอให้พวกเขาสามัคคีกันเพื่อสนับสนุนปูติน

ซาราห์ เรนส์ฟอร์ด ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคยุโรปตะวันออกของ BBC กล่าวว่า ปฏิบัติการ ‘กอบกู้ชื่อเสียงปูติน’ กำลังดำเนินไปอย่างเต็มกำลัง

ขณะที่หัวหน้าวากเนอร์กรุ๊ปให้เหตุผลว่า การก่อจลาจลช่วงสั้นๆ ของพวกเขาเป็นการตอบสนองแผนการของรัฐบาลที่จะเข้าควบคุมวากเนอร์กรุ๊ปโดยตรง

เป้าหมายของวากเนอร์กรุ๊ปคือ “หลีกเลี่ยงการทำลายวากเนอร์กรุ๊ป” ข้อความแรกจากปริโกซินนับตั้งแต่การก่อจลาจลเมื่อวันเสาร์


เยฟเกนี ปริโกซิน

 

ในข้อความเสียงความยาว 11 นาทีทางเทเลแกรม ปริโกซิน กล่าวว่า เมื่อประกาศว่ากองทหารของเขาจะเดินหน้าไปยังกรุงมอสโก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ได้มีเป้าหมายที่ประธานาธิบดีปูติน และไม่มีความปรารถนาที่จะโค่นล้มระบอบการปกครอง

เขากล่าวว่า วากเนอร์กรุ๊ปพยายาม “รับผิดชอบต่อผู้คนที่ทำผิดพลาดจำนวนมากระหว่างปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (ในยูเครน) ด้วยการกระทำที่ไม่เป็นมืออาชีพ” แม้จะอยู่ข้างเดียวกับกองทัพรัสเซีย แต่ปริโกซินก็วิพากษ์วิจารณ์ยุทธวิธีการสู้รบในสงครามมาโดยตลอด

ทางการรัสเซียยืนยันว่าจะรวมวากเนอร์กรุ๊ปเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ แต่วากเนอร์กรุ๊ปยังคงเปิดรับสมัครทหารรับจ้างเข้าประจำการในหน่วยของตนอย่างเปิดเผยเพื่อ ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร’ ของรัสเซียในยูเครน

ประกาศในช่องเทเลแกรมของวากเนอร์กรุ๊ป เสนอรายได้ของทหารรับจ้างขั้นต่ำที่ 240,000 รูเบิลต่อเดือน (2,843 ดอลลาร์ หรือราว 100,000 บาท) สำหรับชาวรัสเซียส่วนใหญ่นี่คือโชค โดยเฉพาะในพื้นที่ยากจน รายชื่อศูนย์ของวากเนอร์ปรากฏทั่วรัสเซีย โดยศูนย์หลักตั้งอยู่ที่มอลกิน (Molkin) ทางตอนใต้สุด

สำนักข่าว TASS ของรัสเซีย รายงานว่า ในเมืองโนโวซีบีร์สค์ทางตะวันออกของไซบีเรียก็กำลังสรรหาทหารรับจ้างเช่นกัน สำนักงานวากเนอร์กรุ๊ปปิดทำการไปเมื่อวันเสาร์ แต่ในวันจันทร์ ป้ายแบนเนอร์ของสำนักงานกลับมาตั้งที่เดิมอีกครั้ง

วากเนอร์กรุ๊ปคือเครื่องมือสำคัญที่ส่งเสริมความทะเยอทะยานของผู้นำรัสเซียในการฟื้นฟูอิทธิพลในระดับโลกของรัสเซีย

เวลาประมาณ 22.10 น. ปูตินยืนยันในแถลงการณ์ว่านักบินของกองทัพรัสเซียเสียชีวิตจากการปะทะกับกองทหารวากเนอร์กรุ๊ประหว่างการก่อจลาจล 

เขายังเสนอ 3 ทางเลือกให้กับทหารของวากเนอร์กรุ๊ปว่าสามารถเข้าร่วมกองทัพรัสเซีย กลับบ้าน หรือไปเบลารุส

 

วันอังคาร

ช่วงเช้า ปูตินกล่าวถึงกองทัพรัสเซียว่า พวกเขา ‘ยุติสงครามกลางเมือง’ จากการก่อกบฏของวากเนอร์กรุ๊ป

เขาเคยกล่าวระหว่างการประชุมผู้นำระดับสูงว่า ในปี 2022-2023 รัฐรัสเซียสนับสนุนงบให้แก่วากเนอร์กรุ๊ปไปแล้วกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์

เมื่อเวลา 08.00 น. มีรายงานว่า เครื่องบินที่เชื่อมโยงกับหัวหน้าวากเนอร์กรุ๊ปลงจอดที่ฐานทัพอากาศเบลารุส ชานกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส

สื่อทางการของรัสเซียสามแห่งอ้างอิงข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองรัสเซีย (FSB) ว่าข้อกล่าวหาในคดีอาญาถูกยกฟ้อง โดยสำนักข่าว RIA รายงานว่า เนื่องจาก “ผู้เข้าร่วมได้ยุติการกระทำที่มุ่งเป้าไปสู่การก่ออาชญากรรมโดยตรง” แต่ปริโกซินยังต้องถูกสอบสวนในข้อหากบฏ

เวลาประมาณ 21.00 น. อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ระบุว่า หัวหน้าวากเนอร์กรุ๊ปอยู่ในเบลารุส แต่ยังไม่ปรากฏภาพถ่าย หรือประกาศใดๆ จากปริโกซิน

 

รัฐประหารที่จบแบบงงๆ และอนาคตผู้นำรัสเซีย

“โดยทั่วไปแล้ว ตอนนี้ไม่มี ‘การกบฏ’ แต่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ว่าจะจบลงหรือไม่ก็ตาม เราจะทราบในไม่ช้า” อิกอร์ เกอร์กิน (Igor Girkin) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับของรัสเซียที่ต่อสู้ในช่วงปีแรกๆ ของความขัดแย้งทางตะวันออกของยูเครน เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า รัฐประหาร

ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารโพสต์ในเทเลแกรมเมื่อวันเสาร์ว่า การกระทำของปริโกซินเข้านิยามของการกบฏเกือบสมบูรณ์แบบ ในถ้อยแถลงทางโทรทัศน์ของปูตินเองก็ได้อธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกบฏ หรือการก่อจลาจล

ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองตะวันตกมองว่า การโจมตีครั้งแรกในตำแหน่งของรัสเซียเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เพราะ “ไม่มีใครคิดว่า (ปริโกซิน) จะมีส่วนร่วมกับกองทัพรัสเซียในดินแดนของรัสเซียจริงๆ” และเสริมว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็น “การทรยศ ซึ่งดูเหมือนเขายังไม่มีพลังเพียงพอจะทำได้”

เดิมพันรอบนี้สูง ไม่เพียงสำหรับปูตินและระบอบการปกครองของเขาเท่านั้น แต่รวมถึงฝั่งปริโกซินและกองกำลังของเขา ซึ่งน่าจะวางแผนปฏิบัติการนี้มาระยะหนึ่งแล้ว

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า หน่วยสอดแนมของสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลที่บ่งชี้ว่าผู้นำวากเนอร์กรุ๊ปวางแผนที่จะดำเนินการกับผู้นำทางทหารของรัสเซียตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน

ข้อตกลงที่เกิดขึ้นเพื่อแลกกับการถอนกำลังทหารของวากเนอร์กรุ๊ป คือยกเลิกการตั้งข้อหาทางอาญาต่อปริโกซิน และจะไม่ดำเนินคดีกับกองทหารวากเนอร์กรุ๊ป แต่มีรายงานว่า ข้อหากบฏของผู้นำทหารรับจ้างคนนี้ไม่ได้ถูกยกเลิกไปด้วย

ทำให้ต้องจับตาต่อไปว่า อนาคตของใครจะจบก่อนกัน ระหว่างผู้นำหน่วยทหารรับจ้างทรงอิทธิพล กับผู้นำสูงสุดที่ครองอำนาจในรัสเซียมานานกว่าสองทศวรรษ


 

เยฟเกนี ปริโกซิน: ผู้กล้าหรือคนทรยศ?

คลิปวิดีโอที่ทำให้คนทั่วโลกเริ่มสนใจความแตกร้าวภายในกองทัพรัสเซีย และผู้นำระดับสูง คือเมื่อหัวหน้าหน่วยทหารรับจ้างอย่างวากเนอร์กรุ๊ป วิพากษ์ความผิดพลาดด้านยุทธวิธี เมื่อ 8 พฤษภาคม พร้อมขู่จะถอนทหารจากแนวหน้าที่บักห์มุต

ทำความรู้จัก เยฟเกนี ปริโกซิน ที่ได้ชื่อว่าภักดีต่อผู้นำรัสเซีย และรู้จักกับปูตินมากกว่า 30 ปี

เมื่อปี 1981 ปริโกซินถูกจำคุกด้วยข้อหาลักทรัพย์และขโมย เมื่อได้รับการปล่อยตัวในปี 1990 เขาทำงานเป็นตัวแทนจำหน่ายฮอตด็อกอยู่ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

ปริโกซินเปิดร้านอาหารหรูเมื่อปี 1997 และชนะประมูลในสัญญากับทางการรัสเซีย ทำให้เขามีโอกาสเตรียมอาหารต้อนรับผู้นำต่างประเทศ รวมถึงได้เสิร์ฟอาหารให้บุคคลสำคัญด้วยตัวเอง เช่น จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เมื่อปี 2006

ช่วงปี 2010 ปรากฏภาพผู้นำรัสเซียกับปริโกซิน ในโรงงานผลิตอาหารมื้อกลางวันให้กับโรงเรียน และปีถัดมาเขาก็ได้เสิร์ฟอาหารให้กับปูตินด้วยตัวเอง

ฉายา ‘เชฟของปูติน’ ไม่ได้ดูแลเฉพาะอาหารของท่านผู้นำและอาคันตุกะเท่านั้น เขายังได้ดูแลอาหารสำหรับกองทัพ สัญญากับทางการในโครงการใหญ่ๆ ทำให้ปริโกซินเข้าใกล้กองทัพรัสเซียมากยิ่งขึ้น

และในปี 2014 หลังจากรัสเซียบุกยูเครนและผนวกไครเมีย ก็เป็นจุดกำเนิดของกองพันทหารผู้รักชาติที่ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม และต่อมาได้ชื่อว่า วากเนอร์

ก่อนที่ปริโกซินจะยอมรับอย่างภูมิใจเมื่อปีที่แล้ว เขาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับวากเนอร์กรุ๊ปมาโดยตลอด


กบฏวากเนอร์กรุ๊ปอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น?

แจ็ก วัตลิง นักวิจัยอาวุโสจากหน่วยงานป้องกันและรักษาความปลอดภัยของอังกฤษ (Royal United Services Institute: RUSI) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านความมั่นคง เสนอว่า การตีกรอบเหตุการณ์ในวันที่ 23-24 มิถุนายนว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างบริษัททหารเอกชนและรัฐรัสเซียนั้น เป็นการแบ่งขั้วที่ผิด

วากเนอร์กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นในฐานะกองพันอาสาสมัครในปี 2014 เพื่อสู้รบในดอนบาส และได้กลายเป็นวิธีการที่รัฐรัสเซียสามารถส่งกองกำลังไปทั่วโลกโดยไม่ต้องมอบอำนาจให้กองทัพรัสเซีย เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ หรือเพื่อจัดการปัญหาทางการเมือง

กรณีการรุกรานยูเครน วากเนอร์กรุ๊ปกลายเป็นกองทหารกึ่งมืออาชีพซึ่งสามารถสร้างหน่วยที่มีความสามารถมากกว่ากองทัพทั่วไป ทั้งยังได้รับอนุญาตจากกระทรวงยุติธรรมให้คัดเลือกทหารจากเรือนจำได้

เกือบทุกแง่มุมของกิจกรรมของวากเนอร์กรุ๊ป ผสานเข้ากับองคาพยพต่างๆ ของรัฐรัสเซียอย่างใกล้ชิด บุคลากรจำนวนมากยังอยู่ในหน่วยรบพิเศษของกองทัพรัสเซียด้วย

เป็นเรื่องที่เหมาะเจาะที่ปูตินอ้างถึงเหตุการณ์ในปี 1917 เพื่อประณามการกระทำของวากเนอร์ ที่สำคัญคือต้องไตร่ตรองถึงขอบเขตที่ความเสื่อมโทรมของกองทัพรัสเซียในปีนั้นส่งผลให้เกิดการกบฏ การเจรจา และการแยกส่วนภายในกองบัญชาการของรัสเซีย

“การล่มสลายในปี 1917 เริ่มต้นที่ด่านหน้าและใช้เวลาพัฒนาหลายเดือน เป็นเรื่องน่าสนใจที่จะติดตามว่าความต้องการใดจะออกมาจากส่วนอื่นๆ ของกองกำลังรัสเซียอีกบ้างในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าหลังจากกรณีของวากเนอร์กรุ๊ป” วัตลิง ตั้งข้อสังเกต

 



Share article
  • Line
  • link

RELATED

+

เยอรมนีจะเป็นมหาอำนาจแทนสหรัฐฯ จริงหรือ หลังรัฐสภาทุ่มงบกองทัพ และเป็นเจ้าภาพซ้อมรบ NATO

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR ในพม่า ของขวัญเล็กๆ จากมหามิตรรัสเซีย ที่อาจสั่นสะเทือนแผนพลังงานทั้งภูมิภาค

ทำไมการเจรจาสงครามยูเครนแบบทรัมป์-แวนซ์ ทำให้ EU ย้ำว่า ‘โลกเสรีต้องการผู้นำใหม่’

ทำไมความสัมพันธ์รัสเซีย-เกาหลีเหนือ จึงกลายเป็นพันธมิตรสุดอันตราย

6 สมรภูมิทั่วโลก อาวุธสงครามมาจากไหน ใครคือพ่อค้าความตายตัวจริง

ไทยรัฐออนไลน์ ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

ยอมรับ
Thailand Web Stat