เนทันยาฮูไม่รับข้อเสนอหยุดยิงของฮามาส ไม่ยอมแลกตัวประกัน ปฏิเสธแนวทางสองรัฐ ยังไม่เห็นสัญญาณสันติภาพที่ฉนวนกาซา

นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มฮามาสที่จะยุติสงครามและปล่อยตัวประกัน เพื่อแลกกับการถอนกองกำลังอิสราเอล ปล่อยนักโทษ ยอมรับการปกครองฉนวนกาซาของฮามาส และเนทันยาฮูยังคงต่อต้านแนวทางสองรัฐ ไม่ยอมรับการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์

แม้ถูกกดดันภายในประเทศอย่างต่อเนื่องให้ช่วยเหลือตัวประกันกลับบ้าน เนทันยาฮู กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า การยอมรับเงื่อนไขของฮามาสหมายถึงการปล่อยให้กลุ่มติดอาวุธ ‘ไม่ถูกแตะต้อง’ ส่วนทหารของอิสราเอลต้อง ‘ล้มเหลวอย่างไร้ผล’

“ขอปฏิเสธเงื่อนไขการยอมจำนนต่อสัตว์ประหลาดแห่งฮามาสโดยสิ้นเชิง” เนทันยาฮูกล่าว พร้อมให้เหตุผลว่า หากอิสราเอลยอมรับข้อเสนอ ก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองตนเอง ไม่สามารถนำผู้อพยพกลับบ้านได้ และรอเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ 7 ตุลาคมครั้งใหม่เท่านั้น

ผู้นำอิสราเอลยังคงย้ำจุดยืนที่ชัดเจนในประเด็นสถานะของรัฐปาเลสไตน์ และ “จะไม่มีการประนีประนอมสำหรับการควบคุมความมั่นคงพื้นที่ทั้งหมดในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนอย่างเต็มรูปแบบ” เนทันยาฮู กล่าว

“นั่นหมายความว่าไม่มีโอกาสที่ตัวประกัน (อิสราเอล) จะถูกปล่อยตัว” ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่กลุ่มฮามาส กล่าวตอบโต้แถลงการณ์ โดยคาดว่าจำนวนตัวประกันขณะนี้อยู่ที่ 136 คน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อิสราเอลผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ 2 คน ระบุว่า อิสราเอลได้เสนอการหยุดยิงเป็นเวลา 2 เดือนแก่กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงปล่อยตัวประกัน และอาจกลายเป็น “ช่วงเวลาหยุดยิงที่ยาวนานที่สุดที่อิสราเอลเสนอให้กลุ่มฮามาสนับตั้งแต่เริ่มสงคราม”

เนทันยาฮูไม่เพียงปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มฮามาส แต่ยังปฏิเสธข้อเรียกร้องจากรัฐบาลของ โจ ไบเดน ที่เสนอให้ลดระดับการทำสงครามควบคู่ไปกับพัฒนาแนวทางสองรัฐ

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า อิสราเอลจะไม่สามารถบรรลุ ‘ความมั่นคงที่แท้จริง’ ได้หากไม่ยอมรับแนวทางการมีรัฐปาเลสไตน์

เมื่อเย็นวันอาทิตย์ สมาชิกครอบครัวของตัวประกันรวมตัวกันประท้วงบริเวณหน้าบ้านพักส่วนตัวของ เบนจามิน เนทันยาฮู ในเยรูซาเล็ม ตัวแทนของตัวประกันอิสราเอลและครอบครัวผู้สูญหาย ระบุว่า ผู้ประท้วงจะอยู่ต่อไปจนกว่า “นายกรัฐมนตรีจะอนุมัติข้อตกลงปล่อยตัวประกัน”

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ ผู้ประท้วงหลายพันคนรวมถึงญาติผู้สูญหายรวมตัวกันที่กรุงเทลอาวีฟ เรียกร้องให้เนทันยาฮูบรรลุข้อตกลงสงบศึกเพื่ออนุญาตให้ตัวประกันได้กลับบ้าน

ภายใต้ข้อตกลงที่สหรัฐฯ กาตาร์ และอียิปต์ร่วมเป็นตัวกลางเจรจาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2022 ตัวประกันมากกว่า 100 คน จากทั้งหมดประมาณ 240 คนที่ถูกจับตัวจากฉนวนกาซาระหว่างการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ 240 คนจากเรือนจำอิสราเอล

ในปี 2017 ฮามาสได้แก้ไขกฎบัตรเดิมฉบับปี 1988 เพื่อยอมรับแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ ซึ่งทำให้การดำรงอยู่ของอิสราเอลในฐานะประเทศถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ปัจจุบัน อิสราเอลยืนกรานว่าไม่อาจยอมให้กลุ่มฮามาสดำรงอยู่ได้อีกต่อไป และเนทันยาฮูได้ปฏิเสธแนวทางสองรัฐอย่างชัดเจน

ข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่า นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 319 คนถูกสังหารในเขตเวสต์แบงก์ หลายคนถูกทหารอิสราเอลสังหารด้วยอาวุธปืน แต่พยานบางคนกล่าวว่า ถูกสังหารโดยกองกำลังอิสราเอลและผู้ตั้งถิ่นฐานขณะที่พวกเขาไม่มีอาวุธ

สหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ทางการอิสราเอลเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่ เตาฟิก อับเดล จับบาร์ วัยรุ่นปาเลสไตน์อายุ 17 ปี ถูกยิงเสียชีวิตในเขตเวสต์แบงก์เมื่อวันศุกร์

มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 25,105 คนถูกสังหารในฉนวนกาซา นับตั้งแต่อิสราเอลประกาศความตั้งใจที่จะกำจัดกลุ่มฮามาสเพื่อตอบโต้การโจมตีในวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนอิสราเอลและชาวต่างชาติราว 1,300 คน และจับเป็นตัวประกันอีกนับร้อยคน

อ้างอิง: aljazeera.com[1], aljazeera.com[2], theguardian.com, timesofisrael.com, bbc.com, edition.cnn.com