Humberger Menu

สังคมกดดัน เยาวชนหมดไฟ สิงคโปร์เผชิญปัญหาวัยรุ่นติดเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะต้องบูสต์พลังโปรดักทีฟ

-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

Politics & Society

World

Politics

2 ก.ค. 67

creator
กองบรรณาธิการ
BookmarkLineCopy
-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

...

Summary
  • สภาสิงคโปร์ต้องพิจารณากฎหมายควบคุมอายุในการซื้อเครื่องดื่มคาเฟอีนสูง เนื่องจากความนิยมเครื่องดื่มชูกำลังที่เพิ่มขึ้นในหมู่เยาวชน ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพในอนาคต

...


พื้นที่ในร้านสะดวกซื้อเชนใหญ่ของสิงคโปร์เต็มไปด้วยนักเรียน-นักศึกษามาเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เรื่องนี้ควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปกติทั่วไป แต่สิ่งแปลกใหม่จนเกิดข้อกังวล คือ เยาวชนหลายคนมุ่งเข้าไปที่ตู้แช่เครื่องดื่มเพื่อหยิบเครื่องดื่มชูกำลัง

อย่างยี่ห้อที่กำลังได้รับความนิยมคือ PRIME ผลิตโดย โลแกน พอล และ KSI อินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดียและยูทูบเบอร์ชาวอเมริกันในปี 2022 ต่อจากนั้นก็ดังระเบิดระเบ้อ สินค้าได้กระจายไปทั่วไปอเมริกา จนกระทั่งได้รับความนิยมในสิงคโปร์อย่างมาก แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อราคาย่อมเยาของสหภาพแรงงานสิงคโปร์ยังต้องนำเข้ามาขายด้วย

เริ่มแรก PRIME เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่หรือไฮเดรชัน สำหรับคนเล่นกีฬา โดยปราศจากคาเฟอีน ต่อมาได้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังที่มีปริมาณคาเฟอีนสูงในรูปขวดสีสันสดใส 

ไดอานา ชาง อาจารย์อาวุโสด้านการตลาด มหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์แห่งสิงคโปร์ วิเคราะห์ว่า เหตุผลที่ PRIME ได้รับความนิยมสูง เพราะการเลือกให้อินฟลูเอนเซอร์เข้ามาโปรโมตสินค้า โดยได้เซ็นสัญญากับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ นักฟุตบอลจากแมนซิตี้, แพทริค มาโฮมส์ นักกีฬาอเมริกันฟุตบอล NFL, อิสราเอล อเดซานย่า นักมวยแชมป์โลก UFC และยังเป็นพาร์ตเนอร์กับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลและบาร์เซโลนาด้วย รวมทั้งตัว โลแกน พอล และ KSI ก็เป็นยูทูบเบอร์ที่มีคนติดตามกว่า 50 ล้านคน และมีอิทธิพลต่อคนหนุ่มสาวไม่น้อย

การให้บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ถือขวด PRIME โปรโมตสินค้า และมีคลิปที่คนดังต่างดื่มสินค้าของ PRIME ทำให้เห็นว่าใครๆ ก็บริโภคเครื่องดื่มนี้ จึงกลายเป็นกระแสไวรัลในเวลาต่อมา จนเกิดความนิยมไปในหลายที่

“สำหรับเด็กบางคน PRIME จึงไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่ม แต่ยังใกล้ชิดกับอินฟลูเอนเซอร์คนโปรด และยังเป็นหนทางได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเจ๋งๆ โอกาสในการอวดสไตล์ ทำให้พวกเขาเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้ามากขึ้น” ซาร์เมอร์ เอลฮัจจาร์ อาจารย์อาวุโสด้านการตลาดจากคณะวิชาธุรกิจของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เครื่องดื่ม PRIME เคยถูกฟ้องร้องในรัฐนิวยอร์กเกี่ยวกับประเด็นการทำให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่ม เนื่องจากพบว่าเครื่องดื่มชูกำลังขนาด 12 ออนซ์ของ Prime บางส่วนมีคาเฟอีนระหว่าง 215 มก. ถึง 225 มก. และไม่ใช่ 200 มก. ที่โฆษณาไว้

ไม่ใช่แค่เพราะคนดังและกระแสไวรัล TikTok ที่ทำให้เด็กเลือกซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ Andre Frois นักเขียนประจำ Rice Media ตั้งข้อสังเกตว่า บรรยากาศและวัฒนธรรมในสังคมสิงคโปร์ยังสร้างความกดดันให้เยาวชนต้องตั้งใจเรียนอย่างหนัก จนทำให้เกิดภาวะหมดไฟ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเยาวชนจะมุ่งหาเครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขาลืมตาตื่นหรือแข็งขันสำหรับการเรียนได้ ซึ่งเครื่องดื่มชูกำลังเข้ามาเป็นคำตอบนั้น

ปัญหาคือ เครื่องดื่มประเภทนี้มีคาเฟอีกปริมาณสูง ซึ่งทำให้เกิดอาการใจสั่น ปวดหัว อาการชัก ปวดท้อง ความดันโลหิตสูง อวัยวะอักเสบ และโรคทางระบบประสาทต่างๆ รวมทั้งปริมาณน้ำตาลสูง 

ไม่นานนี้ยังมีงานวิจัยผลกระทบเครื่องดื่มชูกำลังที่พบความเชื่อมโยงของการเกิดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งและการเจริญเติบโตของเนื้องอก และการบริโภคมากเกินไปยังเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นด้วย โดยรายงานทางการแพทย์ยังระบุว่าเยาวชนอาจมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ปัญหาระบบทางเดินอาหาร และได้รับผลกระทบในระยะยาวต่อการพัฒนาสมองและอารมณ์ หากบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังมากเกินไป

และเมื่อการเข้ามาของ PRIME ทำให้เครื่องดื่มชูกำลังกลายเป็น ‘ของต้องมี’ ในหมู่วัยเรียน ในสิงคโปร์จึงเกิดข้อถกเถียงว่า หรือควรมีกฎหมายควบคุมอายุในการซื้อเครื่องดื่มชูกำลังได้แล้ว? 

ต้นปี 2024 นี้ สส.จินลี จีน ได้ตั้งคำถามถึงรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขในสภาถึงการพิจารณาควบคุมอายุของผู้ซื้อเครื่องดื่มที่มีปริมาณคาเฟอีนสูง เนื่องจากสิงคโปร์ยังไม่เคยมีกำหนดมาก่อน ซึ่งมีแนวโน้มว่าประเด็นนี้อาจนำไปสู่การออกกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มฉบับใหม่ และทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศล่าสุดที่ใช้มาตรการรุนแรงควบคุมวิกฤติเครื่องดื่มชูกำลัง

ก่อนหน้านี้ประเทศในยุโรปได้ออกข้อกำหนดควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มคาเฟอีนสูง เช่น นอร์เวย์ห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง, โรมาเนีย ลิทัวเนีย และลัตเวีย ควบคุมผู้ซื้อต่ำกว่าอายุ 18 ปี ฟากทวีปอเมริกา ในประเทศแคนาดากำหนดให้ผู้อายุมากกว่า 18 ปีเท่านั้นที่สามารถซื้อเครื่องดื่มชูกำลังได้




Share article
  • Line
  • link

RELATED

+

‘กินทีละคำ ทำทีละเมือง’ กลยุทธ์การตลาด ‘คาราบาวแดง’ แจ้งเกิดด้วยชัยชนะจากเป้าหมายเล็กๆ

ทศวรรษที่ 7 ของกลุ่ม TCP ธุรกิจครอบครัวที่เริ่มจากเซลส์ขายยา สู่ ‘กระทิงแดง’ เครื่องดื่มชูกำลังระดับโลก

ไทยรัฐออนไลน์ ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

ยอมรับ
Thailand Web Stat