Humberger Menu

ปิดศูนย์การเรียนรู้เด็กพม่า เพิ่มความเสี่ยงการใช้แรงงานเด็ก ทำไมกระทรวงภูมิใจไทยไม่ทำงานร่วมกัน

-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

Politics & Society

Thai Politics

Social Issues

13 ก.ย. 67

creator
โรยทราย วงศ์สุบรรณ
BookmarkLineCopy
-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

...

Summary
  • คลิปเด็กพม่าร้องเพลงชาติไทยตามด้วยเพลงชาติพม่า ทำให้กลุ่มชาตินิยมออกมาวิจารณ์ ตามมาด้วยคำสั่งรัฐมนตรีศึกษาธิการให้ปิดศูนย์การเรียนรู้ที่สุราษฎร์ธานี ที่มีนักเรียน 1,250 คน
  • เด็กข้ามชาติในศูนย์การเรียนรู้ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของแรงงานพม่า หากปิดศูนย์เรียนรู้ เด็กเหล่านี้อาจต้องตามพ่อแม่ไปทำงาน ซึ่งอาจเข้าข่ายการใช้แรงงานเด็ก ที่ไทยถูกจับตามองโดยสหรัฐฯ และยุโรป
  • กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการปิดศูนย์เรียนรู้ คือกระทรวงศึกษาธิการ แรงงาน และมหาดไทย เป็นกระทรวงของพรรคภูมิใจไทย แต่เหมือนกับว่าทั้งสามกระทรวงไม่ได้ทำงานประสานไปในทางเดียวกัน

...


เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปรากฏคลิปในโลกออนไลน์และมีการแชร์ต่อกันมากมาย คลิปที่ว่ามีภาพของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดพละ ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติไทยตามด้วย ‘เพลงชาติพม่า’ จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง  อีกทั้งยังมีกลุ่มคนที่รับไม่ได้กับการร้องเพลงชาติพม่าบนแผ่นดินไทย

พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งด่วนให้ตรวจสอบ ปิดศูนย์การเรียนรู้ภาษาพม่า มิตตาเย๊ะ สุราษฎร์ธานี ที่มีนักเรียน 1,250 คน พร้อมกันนี้จะมีการปิดศูนย์เรียนที่เหลืออีก 5 แห่ง โดย สุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกมาดำเนินการตามคำสั่งรัฐมนตรีทันที 

ในทางกลับกัน ข่าวปิดศูนย์การเรียนรู้นั้นออกมากลบข่าวดีของ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่สหรัฐอเมริกาถอดถอนสินค้ากุ้งไทยออกจากบัญชีเฝ้าระวัง แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ (TVPRA List) และบัญชีรายชื่อสินค้าที่มีการใช้แรงงานเด็กบังคับหรือแรงงานเด็กขัดหนี้ (EO List) แต่มีการเพิ่มรายการสินค้าไทยซึ่งมีการผลิตโดยใช้แรงงานบังคับอีก 3 รายการ ได้แก่ ปลาป่น (Thailand Fishmeal) น้ำมันปลา (Thailand Fish Oil) และอาหารสัตว์ (Thailand Animal Feed) ร่วมกับบัญชีเดิมคือ ปลา อ้อย เครื่องนุ่งห่ม และสื่อลามก

ข่าวนี้ทำเอาสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ สมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เป็นกังวลถึงขั้นต้องขอพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นการด่วนก่อนจะกระทบกับอุตสาหกรรมนี้ เพราะปัญหาการใช้แรงงานเด็กแรงงานบังคับในประเทศคู่ค้าสหรัฐฯ มักจะหยิบมาพิจารณาการให้สิทธิพิเศษทางอัตราภาษีศุลกากร (GSP) ประจำปี อีกทั้งปลาป่นยังเป็นต้นน้ำของอาหารสัตว์ในหมูกุ้งไก่และสัตว์เลี้ยง อาจจะลุกลามความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่าที่คิด นอกจากนี้สินค้าเกษตรไทย อย่าง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ก็เป็นสินค้าที่ถูกกล่าวถึงในความสุ่มเสี่ยงในประเด็นการใช้แรงงาน


สินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ เกี่ยวอะไรกับแรงงานเด็กและศูนย์การเรียนพม่า?

ผู้อ่านอาจสงสัยว่าข่าวแรงงานเด็กเกี่ยวอะไรกับข่าวปิดศูนย์การเรียนพม่า แล้วมันจะมีผลกระทบแค่ไหน จากการที่กระทรวงศึกษาธิการจะทำหน้าที่แก้ปัญหาความมั่นคงที่เริ่มต้นจากการร้องเพลงชาติพม่า

อย่าลืมว่าปัญหาแรงงานเด็กในประเทศไทยส่วนใหญ่คือ เด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา และพบมากสุดในภาคเกษตรกรรม  กระทรวงแรงงานได้ออกแผนปฏิบัติการที่จะขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ภายในปี 2570 ที่ย้ำชัดว่า จะสนับสนุนให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาทั้งในระบบและอาชีพ 

และปัญหาแรงงานเด็กมีปัจจัยสำคัญคือ ความยากจนและการเข้าไม่ถึงการศึกษา โดย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ชี้เพิ่มว่า กลุ่มเสี่ยงคือ ‘เด็กข้ามชาติ’ ที่ติดตามพ่อแม่มาไทย 

ปัจจุบัน กรมจัดหางานรายงานว่า มีแรงงานต่างชาติทำงานถูกต้องตามกฎหมายทั้งสิ้น 3,346,665 คน แต่ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีเด็กต่างชาติอาศัยอยู่ในไทยเท่าไหร่

ไทย ในฐานะประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ มีมูลค่า 68,358 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.72 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ 29,371 ล้านดอลลาร์ เป็นรองแค่ประเทศจีน ฉะนั้นผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะสินค้าเกษตร 5 อย่างที่ส่งออกสูงสุดให้สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบโดยตรง ข้าว อาหารสุนัขและแมว ทูน่าและผลิตภัณฑ์ทูน่า ผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ กุ้งและผลิตภัณฑ์กุ้ง 

จะเห็นได้ว่า สินค้าอย่างกุ้ง ยางพารา ปลาเป็ดและปลาไก่ ซึ่งเป็นสินค้าต้นน้ำ มาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งตกเป็นข่าวปิดศูนย์การเรียน หากเด็กข้ามชาติไม่ได้เรียนหนังสือ ก็จะต้องติดตามพ่อแม่ที่เป็นแรงงานไปทำงาน จากนั้นก็จะมีการตีข่าวว่าประเทศไทยยังคงปล่อยปละละเลยให้มีเด็กไปทำงาน ไม่ว่าจะช่วยพ่อแม่เก็บน้ำยางพารา ปาล์ม อยู่บริเวณท่าเรือชุมชนประมง ซึ่งไทยต้องใช้เวลากว่า 15 ปีในการปลดกุ้งออกจากรายการสินค้าที่อาจมีการใช้แรงงานเด็ก รวมทั้งวิบากกรรมประมงผิดกฎหมายและแรงงานทาส (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing: IUU)


แนวคิดชาตินิยมกำลังทำให้ไทยสูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน

ที่น่าสนใจคือ หน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแรงงานข้ามชาติและศูนย์เรียนรู้ คือ กระทรวงศึกษาธิการ แรงงาน และมหาดไทย ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย พันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาล แต่กลับไม่ได้ทำงานสอดคล้องกันว่าจะแก้ปัญหาแต่ละประเด็นร่วมกันอย่างไร เรื่องแรงงานข้ามชาติกลับเป็นลักษณะอยู่คนละกระทรวง ถือกฎหมายคนละฉบับ 

ขณะที่หนึ่งในนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยการเร่งผลักดันเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (FTA Thai-EU) ก็มีเงื่อนไขสิทธิมนุษยชนการปกป้องสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานด้านแรงงานเป็นประเด็นสำคัญของการเจรจา ไม่นับข้อกังวลที่สหภาพยุโรปมีต่อการปรับปรุงแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ เรียกว่าได้ว่าประเทศไทยไม่มีต้นทุนทางสังคมเหลือพอที่จะรับความเสียหายจากประเด็นการละเมิดสิทธิแรงงานได้อีก 

หากภูมิใจไทย ในฐานะพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลผู้คุมกระทรวงหลักที่เกี่ยวข้องกับแรงงานและประชากรข้ามชาติยังตั้งหลักจัดระเบียบนโยบายไม่ได้  สงสารแต่ผู้ประกอบการไทยที่พยายามปฏิรูปห่วงโซ่อุปทานให้เป็นไปตามมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศกลับต้องมาติดหล่มจมปลักอยู่กับข้อกังวลการร้องเพลงชาติพม่าที่ศูนย์การเรียนพม่าของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ 




Share article
  • Line
  • link

RELATED

+

ทั่วโลกยังคงเผชิญปัญหา ‘การใช้แรงงานเด็ก’ ไม่เว้นในสหรัฐอเมริกา

ไทยรัฐออนไลน์ ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

ยอมรับ
Thailand Web Stat