Humberger Menu

ปฏิรูปตำรวจ ปราบทุจริต และภารกิจ ‘รวมไทย’ ของ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

Politics & Society

Thai Politics

Interview

14 พ.ย. 65

creator
รุ่งฤทธิ์ เพ็ชรรัตน์
BookmarkLineCopy
-ก
+
Light
Dark
ฟังบทความ

...

Summary
  • พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มีบทบาททางการเมืองเป็นประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. งานสำคัญคือทำคดีการถวายสัตย์ไม่ครบของนายกฯ และเรื่องนาฬิกาเพื่อนของพลเอกประวิตร
  • พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมองว่า ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ตราบที่ในโครงสร้างยังมีนายกฯ นั่งเป็นประธาน และไม่ควรเอาการเมืองมาควบคุมโครงสร้างตำรวจ
  • พรรคเสรีรวมไทยประกาศว่าพร้อมร่วมมือกับทุกคน ทุกพรรคการเมือง ยกเว้นพลเอกประยุทธ์

...



ภาพ: วนิดา

‘การเมืองไม่ควรจะเข้ามายุ่งกับตำรวจ’

คือหนึ่งในใจความสำคัญจากบทสนทนากับ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงเรื่องการปฏิรูปตำรวจ โดยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ควรตัดฝ่ายการเมืองออกไป ไม่จำเป็นต้องมีนายกฯ มานั่งเป็นประธาน  

“ทำไมตำรวจไม่มีประธานของตัวเอง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ว่างงานอยู่ เลือกกันไปว่าจะให้ใครเป็น เพราะเขารู้งานหมดแล้ว ทีนี้พอการเมืองไปแทรก นายกฯ ตั้ง ผบ.ตร. ได้ ตำแหน่งเดียวกินเรียบหมด”

แม้สนับสนุนให้แยกการเมืองออกจากบางเรื่อง แต่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไม่ได้รังเกียจการเมือง เพราะปัจจุบัน ชื่อ เสรีพิศุทธ์ ก็เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อในสภาฯ และมีบทบาทต่อปากต่อคำกับนายกรัฐมนตรีบ่อยครั้ง 

ว่ากันว่า ‘พี่ตู่’ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ คือหนึ่งในน้อยคนที่ ‘น้องตู่’ พลเอกประยุทธ์เกรงใจ แม้แต่ตอนรัฐประหาร ก็ไม่เคยมีใครมาเชิญไปปรับทัศนคติ คำพูดนอกบทสัมภาษณ์ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์เล่าว่า “ไม่มี ไม่โดน ถ้ามีผมจะไปสั่งสอนเสียอีก”

“ผมผ่านความเป็นความตายมาเยอะ ใช้อาวุธต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ รอดปากเหยี่ยวปากกามาถึงทุกวันนี้ พวกนี้เคยมีอะไรอย่างผมบ้างไหม …ไม่เคย เคยไปยิงโจรปล้นธนาคารไหม …ไม่เคย แล้วเรื่องอะไรผมต้องไปกลัว” 

หลังจากได้เข้าสภาฯ เป็นนักการเมืองเต็มตัว พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ก็รับบทบาทสำคัญในการเป็น ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ. ป.ป.ช.) ใช้ประสบการณ์ปราบผู้ร้ายมาเป็นมือปราบทุจริต 

งานสำคัญๆ ของ กมธ. ป.ป.ช. เช่น เรื่องการถวายสัตย์ของพลเอกประยุทธ์ นาฬิกาเพื่อนของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และเรื่องร้องเรียนต่างๆ มากมาย แต่ภาพที่คนจดจำคือการเป็น ‘มือปราบตัวป่วน’ ที่ทำให้ สิระ เจนจาคะ และ ปารีณา ไกรคุปต์ ต้องกระเด็นออกจากเวทีการเมือง 

“คุณสิระกับปารีณาก็มาป่วนผมในการทำงาน หาว่าผมรังแกคุณประยุทธ์ ผมจะไปรังแกยังไง”

ไทยรัฐพลัส พูดคุยกับอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องการปฏิรูปตำรวจ พูดคุยกับประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. เรื่องการปราบทุจริต และพูดคุยกับหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เรื่องอนาคตการเมือง ที่วางแนวทางไว้ว่า พร้อมร่วมงานกับทุกคน “ยกเว้นพลเอกประยุทธ์” 

การเมืองสัมพันธ์กับอาชีพเก่า คืองานตำรวจ อย่างไรบ้าง สามารถเป็นกลไกช่วยปฏิรูปวงการตำรวจได้ไหม

ถ้าต้องการแก้ปัญหาตำรวจ พ.ร.บ.ตำรวจ ที่ออกมาใหม่ปี 2565 มันใช้ไม่ได้ ช่วยไม่ได้ แย่กว่าเก่าอีก ตอนออกมาวาระหนึ่ง ผมก็อภิปรายหลายมาตรา แต่ไม่ได้ทั้งหมดเพราะเวลามีจำกัด 

ยกตัวอย่างเช่น นายกฯ เป็นประธาน ก.ตร. (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ถามว่าเป็นทำไม เป็นมากี่สมัยแล้วก็ไม่สามารถพัฒนาตำรวจได้ แล้วคุณยังจะเอานายกฯ มาเป็นอีกหรือ สมมติว่านายกฯ มีความสามารถ แต่คุณเป็นทั้งนายกฯ ประธาน ก.ตร. รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม คุณต้องคุมงานทุกกระทรวง ทบวง กรม คุณยังเป็นประธานกรรมการเศรษฐกิจอีก 40-50 เรื่อง เอาเวลาที่ไหนมาทำ เมื่อไม่มีเวลาก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ 

ทำไมตำรวจไม่มีประธานของตัวเอง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ว่างงานอยู่ เลือกกันไปว่าจะให้ใครเป็น เพราะเขารู้งานหมดแล้ว ทีนี้พอการเมืองไปแทรก นายกฯ ตั้ง ผบ.ตร. ได้ ตำแหน่งเดียวกินเรียบหมด 

share

ทีนี้ ในสภาฯ สังคมไทย สมมตินักการเมืองจังหวัดนี้ก็อยากได้ผู้การของตัวเอง ผู้กำกับของตัวเอง มาขอ ไม่ให้ ก็ไปขอนายกฯ นายกฯ กลัวเสียฐานเสียง ก็ต้องรับมา แล้วก็ทำบัญชีส่งให้ ไม่ต้องเซ็นชื่อนะ เดี๋ยวติดคุก ที่ผมเคยเห็นนะ แบ่งคนละ 50 การเมืองเอาไป 50 ผบ. แต่งตั้ง 50 ถ้า ผบ. เอาเส้นสายด้วย มันก็จะไม่ได้คนดีขึ้นมาหรอก


ทั้งที่จริงควรจะแยกการเมืองออกมาต่างหากเลยใช่ไหม ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงสร้างตำรวจเลย?

ใช่ ทีนี้พอระดับรองผู้การลงมา ปกติ ผบ. 50 ถ้าการเมืองขอมา ก็ต้องให้การเมือง พอให้ ผบ. ก็ไม่สามารถตั้งลูกน้องตัวเองได้ นี่ยังไม่รวมเรื่องซื้อยศซื้อตำแหน่งนะ ถ้าฟังข่าวที่เขาว่ากัน รัฐบาลชุดนี้ ตอนคุณประวิตรเป็น โห ซื้อกันเยอะมาก เป็นข่าวคราว เรื่องดึงอำนาจมาอยู่ที่ตัวเองหมด พอคนเยอะขึ้นก็ตั้งผิดตั้งถูก ตายแล้วก็เอามาตั้งอีก เพราะตรวจสอบไม่ทัน


พวกตั๋วช้างอะไรต่างๆ ด้วยใช่ไหม

ใช่ เพราะฉะนั้น การที่จะแก้ไขปัญหาก็ไม่ใช่แก้ไขเฉพาะเรื่อง ก.ตร. นะ 

เราต้องเข้าใจว่าการปฏิรูปตำรวจต้องปฏิรูปทั้งคนทั้งองค์กร แล้วก็วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องไม้ที่ใช้ทำงาน คนเป็นยังไง รุ่นโบราณอาจจะจบ ป.4 แล้วก็พัฒนาเรื่อยๆ จบ มศ.3 ปัจจุบันรับ ม.6 ตำรวจก็เลียนแบบทหาร ทหารมีหมู่ ลูกแถว ทหารเกณฑ์ ตำรวจก็มีผู้กอง หมู่ ลูกแถว สมัยผมก็ยังทัน เพราะผมเป็นหัวหน้าตำรวจ ก็มีผู้บังคับหมู่ แล้วก็ลูกแถว ซึ่งจบ ม.3 ม.6 หมดเลยนะ แต่ลูกแถวทหารจบ ป.4 เพราะฉะนั้นถึงรบสู้ตำรวจไม่ได้ 

ผมไปทำงานในป่าเขา ทหารเทียบผมไม่ติดหรอก คนของผมมีคุณภาพมากกว่า มาต่อสู้ระดับกองร้อย ทหารเทียบตำรวจไม่ติดเลย แต่พอกองพัน กองพล เขามีอาวุธหนักเยอะ เราไม่มี  

share

เอาเฉพาะเรื่องนี้ก่อน ในเมื่อตำรวจมีวุฒิแค่นี้ มันก็ได้เงินเดือนแค่นี้ อายุแค่นี้ ก็เลยเห็นตำรวจกินเหล้า ไปขับรถชนคนตาย ขับรถย้อนศร ตำรวจติดยาเสพติด คุณวุฒิมันน้อย ประสบการณ์น้อย 

สมัยผม รับนายสิบปริญญาตรีหมด พวกนี้เรียนจบไปทำงานหมด เป็นผู้จัดการบริษัท เป็นทนายความ เป็นนู่นเป็นนี่ อยากเป็นตำรวจ ทำไมอยากเป็น เพราะมีสวัสดิการรักษาพยาบาลฟรีทั้งชีวิต เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากเข้ามา แล้วไม่ใช่ฟรีแค่ตัวเขา ลูกเขา เมียเขา พ่อแม่ 

ทำไมเราไม่รับสัญญาบัตร จบนิติศาสตร์ นักเรียนนายร้อย ปริญญาตรี ก็สามารถทำงานได้ดีกว่า ส่วนโรงเรียนนายร้อยตำรวจก็ให้เรียนเตรียมทหาร 2 ปี เรียนตำรวจ 4 ปี รวมเป็น 6 ปี ก็ได้ร้อยตำรวจตรี 

อันนี้ยังไม่ได้เริ่มทำนะ แต่ผมมีความคิดที่จะปรับหลักสูตรนายร้อยตำรวจใหม่ ใช้ชื่อนายร้อยตำรวจ แต่ปรับหลักสูตร แทนที่จะรับ ม.6 เข้าไปเรียน 4 ปี ก็รับปริญญาตรีเข้าไปเรียน 2 ปี ได้นิติศาสตร์ พอคุณเข้าไปปุ๊บ รู้กฎหมาย คุณก็เรียนวิชาที่คุณไม่ได้เรียน แล้วก็ได้ปริญญาโทไป ทีนี้เราก็จะได้ตำรวจที่มีคุณภาพสูงขึ้น

สำนักงานอัยการนี่เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติแห่งที่สอง ความรู้เท่ากัน ก็จะปรับเงินเดือนให้ แต่นี่มันห่างกันเหลือเกิน แล้วจะไม่ให้ตำรวจทุจริตหรือ ซึ่งมันต้องแก้ไขตรงนี้ 

โดยอุดมคติแล้ว เห็นตำรวจแล้วควรจะรู้สึกอุ่นใจ แต่ทำไมในความเป็นจริงบางคนกลัว หรือกลัวถูกรีดไถ เกิดจากอะไร

เพราะเรายังไม่สามารถสร้างรูปแบบคนหรือองค์กรได้ เลยยังใช้ข้าราชการตำรวจแบบเดิมๆ อยู่ แล้วสมัยปี 2550 ผมไปไหนต่อไหนแล้ว แต่นี่ 2565 มันก็กลับมาเหมือนเดิม แล้วจะบอกให้ดีขึ้นได้ยังไง ถ้าเผื่อต่อยอดขึ้นไป ป่านนี้หมดแล้ว นายสิบไม่มีแล้ว มีนายร้อยหมดแล้ว


เกิดจากเงินเดือนน้อย?

เงินเดือนก็ส่วนหนึ่ง แต่ว่าโทษใคร ทำไมไม่รู้จักคิด แล้วพอเงินน้อย คุณเป็นรอง ผบ. ต่างๆ ก็แยกไปฝ่ายบริหาร ฝ่ายป้องกัน ทุกคนพอมีเรื่องก็ลงไป แต่เรื่องบริหารของตัวเองไม่เคยคิดทำ แต่ละฝ่ายใช้งบประมาณเท่าไร คุณไม่รู้ คุณต้องหยุดไปทำคดีต่างๆ ให้ระดับล่าง ให้กองบัญชาการเขาทำ คุณไม่ต้องยุ่ง 

สมมติลงไปที่อำเภอปันนาเระ ดูงานป้องกัน ว่าที่ปันนาเระจะไม่ให้มีคดีเกิดขึ้นจะต้องใช้คนจำนวนเท่าไร อุปกรณ์เท่าไหร่ งบเท่าไร แล้วทั้งปัตตานี ทั้งภาคใต้ ภาคอื่นก็เหมือนกัน มันก็จะมากำหนดงบประมาณงานป้องกันของ ก.ตร. ได้ ปราบปรามก็เหมือนกัน สืบสวนสอบสวนเหมือนกัน ก็มาดูว่าในปีหนึ่ง โรงพักของคุณใช้งบประมาณเท่าไร ไม่งั้นก็ต้องพึ่งตัวเองหมด 

ก็ต้องโทษตัวเองด้วยที่ไม่คิด รัฐบาลด้วยที่ไม่คิดให้ รัฐบาลประยุทธ์นี่ ขอมายังไงกูก็เซ็นจับเข้าสภาฯ งบทหาร 220,000 ล้าน เอาไปทำอะไร ไม่ได้รบกับใคร ไปดูกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลคนให้มีความพร้อมปัจจัยสี่ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ได้ 24,000 ล้าน เศษของมันเท่านั้นเอง แล้วประชาชนจะอยู่ได้ยังไง 

คนเป็นนายกฯ ต้องจัดการสิ่งเหล่านี้ให้หมด กำลังทหารมีไว้ทำไมเยอะแยะ ต้องตัดทอนให้มันเล็กลง มีขยายไปตรงนั้นตรงนี้ เพราะแบบนี้มันถึงสิ้นเปลืองงบประมาณ มีแม่ทัพภาคก็โอเค แล้วมีทำไมแม่ทัพน้อย มันซ้ำ ต้องยุบให้หมด มีกองบัญชาการทหารสูงสุด มันจำเป็นเหรอ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนเดียวพอ ก็มีสามเหล่าทัพแล้วนี่ 


กองทัพกับตำรวจอะไรปฏิรูปยากกว่ากัน

กองทัพ เพราะไม่ค่อยยอม 

กองทัพเหมือนนักเลง มีอาวุธ แต่บอกแล้วว่าถึงมีอาวุธ ถ้าไปปราบปรามผู้ร้าย ระดับหมู่ หมวด คุณสู้ผมไม่ได้หรอก

share


หมายถึงว่าถ้าใช้ตำรวจก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่า?

ตำรวจมันรักษาความมั่นคงภายใน ทหารมีหน้าที่ป้องกันประเทศ คุณไปทำหน้าที่ให้ถูกสิ คุณก็อยู่ตามแนวชายแดน ป้องกันประเทศ ไม่ให้ใครรุกล้ำอธิปไตยไทย ไม่ให้คนลักลอบเอายาเสพติดเข้ามา คุณปราบได้แค่ตรงนั้นนะ ไม่ใช่มาปราบที่กรุงเทพฯ นะ มันไม่ค่อยทำหน้าที่ตัวเอง มีแต่จะพยายามให้ได้ประโยชน์ส่วนตัว 

ตำรวจ ข้าราชการอาจจะทุจริตนะ แต่ทหารโกงงบประมาณทั้งหมด แล้วนี่บางคนบอกว่าทำไมตำรวจถึงทุจริตกัน ก็เล็กๆ น้อยๆ กินเงินบ่อนบ้าง 

แล้วอย่าง ส.ส. ในสภา ยกมือ 2 ล้าน 5 ล้าน ไม่งั้นกฎหมายไม่ผ่าน ก็ต้องยอมกัน ทุกวันนี้ ส.ส. มีเงินเดือนแสนต้นๆ อย่าง ส.ส.เขต ต้องไปงานศพ งานบวช งานแต่ง พอช่วยงานไม่พอ พรรคก็ต้องช่วยจ่าย แต่ละพรรคจ่าย ส.ส. แต่ละคนที่นอกจากเงินเดือน ก็คนละ 200,000 เพื่อให้พวกนี้มีเงินไปพอทำพื้นที่ มี 100 คน ก็ 20 ล้านต่อเดือน เอามาจากไหน คุณทุจริตงบประมาณ เรื่องนู้นเรื่องนี้ เพื่อให้ ส.ส. คุณมีกินมีใช้ ให้พรรคของคุณยังเป็นพรรคใหญ่ และอยู่ต่อไปในอนาคต 


แสดงว่าการโกงแบบข้าราชการสู้ในสภาฯ ไม่ได้? 

ผมรับราชการมาทั้งชีวิต พอมาเป็น ส.ส. ในสภาฯ นี่โคตรสกปรกเลย พูดกันแต่เรื่องผลประโยชน์ 

ตอนประยุทธ์ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เสียกันคนละ 5 ล้าน มีการร้องมา มีคลิป นี่สอบเสร็จหมดแล้ว ทั้งนักการเมืองและเมียนักการเมืองใหญ่เป็นคนจ่าย คนสรุปยังสรุปไม่ได้ที งานเยอะ มีทุจริตเยอะ เพราะฉะนั้นที่จะแก้ปัญหาความทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ก็ลำบาก นอกจากจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาคนในชาติ นี่ชาวบ้านยังพึ่งตัวเองไม่ได้เลย เขาก็เอา 300 บ้าง 500 บ้าง การพัฒนาประเทศชาติเราต้องพัฒนาคน ตรงนี้ งบประมาณที่ไปสร้างคนมันสำคัญ ต้องใช้เวลา

ตำรวจมักถูกมองว่าผูกขาดกับความรุนแรง มันมีที่มาหรือเปล่า อย่างตอน คฝ. สลายการชุมนุม พูดกับนักข่าวว่า ขอพี่สนุกอีกหน่อย

มันไม่ใช่ตำรวจชอบความรุนแรงหรอกนะ สมัยผมปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ก็มีรบกันยิงกันฆ่ากัน ตายได้ ถามว่ารุนแรงไหม มันเป็นหน้าที่ แล้วป้องกันปราบปราม ไม่ให้ใครมาทำลายระบบของเรา ก็ต้องเต็มที่ 

หรือโจรปล้นธนาคาร เอาผู้หญิงเป็นตัวประกัน มือซ้ายถือระเบิด มือขวาถือปืน ใครจะจัดการไม่ได้ ผมก็ฆ่าทันที ถามว่ารุนแรงไหม มันไม่ได้รุนแรงหรอก 

ทีนี้ปัญหาที่ถามมา มันเกิดจากผู้บังคับบัญชาที่มันห่วงตัวเอง เดี๋ยวไม่ได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องทำตามใจรัฐบาล มันเลยส่งผลกระทบต่อม็อบต่างๆ มันก็มีบาดเจ็บบ้าง แต่นี่เอ็งอยากจะได้ อยากจะปราบ อยากจะสกัดเพื่อให้ผู้นำสบายใจ 

นี่แหละ เพราะนายกฯ มายุ่งกับตำรวจ มีบางคนที่ …ขอไม่เอ่ยชื่อ อยู่ในนครบาลก็ใช้วิธีการอย่างนี้ ถึงบอกว่าตรงนี้มันปลายเหตุ แก้ปัญหาที่ตนเอง แก้ พ.ร.บ.ตำรวจ นายกฯ ต้องไม่มายุ่งกับตำรวจ 


คำพูดของ พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ที่ว่า “ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้…” ยังเป็นแบบนั้นไหม

มันมีคำต่อนะ ว่า “...ในทางที่ไม่ขัดต่อศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามและกฎหมายบ้านเมือง” ผมดูอธิบดีเผ่า ไม่มีใครเหนืออธิบดีเผ่าเลย ที่ท่านมีอำนาจจะทำอะไรแบบนั้น เพราะท่านมีหน้าที่เป็นอธิบดีกรมตำรวจ (ขณะนั้น) ยังเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย เลขาธิการพรรคการเมืองใหญ่ ก็มีอำนาจทางการเมือง แล้วท่านทำอะไรเหมือนกับผมหมดเลย แต่สู้ไม่ได้ เพราะผมมันผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนเดียว ของท่าน โอ้โห… กูใหญ่ เพราะฉะนั้นรูปแบบต่างๆ ไม่ต้องไปดูที่อื่นหรอก ดูที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบดีเผ่าสร้างไว้ แต่ก่อนดี เดี๋ยวนี้เละหมดแล้ว 

อยากทราบความเห็นเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาอาวุธปืน ยาเสพติด และสุขภาพจิต ที่ออกมาหลังจากกรณีกราดยิงที่หนองบัวลำภู

ส่วนของตำรวจจะดูแลด้านสุขภาพจิต ตำรวจมัน 200,000 กว่า จะจัดงบก็ลำบาก ก็ต้องไปพึ่งโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งเขามีงบประมาณอยู่แล้ว แต่ทีนี้ก็เป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว ที่ต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง 

สมัยผมเป็นสารวัตรใหญ่ที่นาแก นครพนม มีคำสั่งของคณะปฏิวัติ ดูลูกน้องคนไหนใช้ยาเสพติดบ้าง ก็คุมไว้ที่โรงพักเลย แค่ 7 วันมันก็อ้วกมาหมดแล้ว เสร็จแล้วพอ 30 วันก็ให้ออกจากราชการหมด บอกมันว่าถ้ายังค้ายังเสพอยู่ คุณเป็นตำรวจไม่ได้ แต่ถ้าไปเป็นอะไรที่อื่นให้ผมช่วย ผมก็ช่วย มันก็ต้องเด็ดขาดอย่างนี้ 

แต่เรื่องอาวุธแก้ได้ ตอนนี้ที่หนองบัวลำภู อาวุธปืนที่ไปยิงคน 37 คน เห็นนักการเมืองออกมาแถลงว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข แก้ยังไง ก็คุณไม่รู้ ได้แต่พูด ถ้าไม่รู้จะแก้ยังไง ก็อย่าพูดดีกว่า 

share

วิธีของผม เมื่อ 10 กว่าปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยขายใบอนุญาตให้ร้านค้าอาวุธปืนใบละ 5 ล้าน ขายไป 100 ใบ ถ้ารัฐมนตรีมหาดไทยยังทำอย่างนี้ ปืนเต็มบ้านเต็มเมืองแน่ๆ ตำรวจก็ดี เจ้าหน้าที่ปกครองก็ดี ทหารก็ดี ถ้าซื้อปืนตามร้านค้ามันแพง เสียภาษี ต้องไปติดต่อบริษัทต่างประเทศด้วย แล้วพวกนี้ไปไหนหมดล่ะ ที่ไปขายต่อ อาวุธปืนก็ตกไปอยู่ในมือประชาชนเยอะแยะ แล้วประชาชนที่ทำอาวุธปืนเถื่อนอีกล่ะ เยอะไปหมด ปัญหาก็เกิดขึ้นว่า ทะเลาะวิวาททวงเงินไม่กี่ร้อย ก็ยิงกันแล้ว จอดรถเฉี่ยวก็ยิง ไปดูเถอะว่าตายกันทุกวัน 37 ศพแล้วหยุดที่ไหนล่ะ มันก็มียิงกันทุกวัน

วิธีการแก้ไขปัญหาตรงนี้คือเก็บอาวุธปืนให้หมด ถ้าประชาชนไม่มีอาวุธปืนนะ มันจะยิงกันยังไง อาวุธถูกกฎหมาย คืนเงินให้ ปืนเถื่อนเอามาคืนให้หมด ไม่มีการชดใช้ ทีนี้ต่อไปถ้าใครมีอาวุธปืนอีกก็คือจำคุกตลอดชีวิต ผิดกฎหมายเลย ถ้าใครเอาอาวุธปืนไปยิงคนอื่น จะตายจะเจ็บ ประหารชีวิต ปืนเป็นล้านกระบอกถูกยึดหมดแล้ว อย่างน้อยมันลดลงแน่ ไม่ได้ยาก แต่ทำไมกระทรวงมหาดไทยยังคิดไม่เป็น


ถ้าเกิดจะทำสิ่งนี้ให้เป็นจริงได้ หลังเลือกตั้งคราวหน้าต้องคุมกระทรวงมหาดไทยหรือเปล่า

ถ้าเขาไม่ยอมทำ มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น หรือสอง ต้องเสนอกฎหมายในสภา แล้วก็แก้ไข ออกกฎหมายให้ได้

การทำงานในฐานะประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. เป็นอย่างไร แตกต่างจากงานตำรวจแค่ไหน

หลังจากที่ได้รับการเลือกตั้งแล้ว สภาก็เริ่มจัดการให้มีการเลือกประธานกรรมาธิการ 35 คณะ อยู่ที่ว่าใครจะเลือกยังไง ผมเองในฐานะที่เป็นข้าราชการตำรวจมานาน เราก็ต้องเลือกงานที่เราถนัด ก็คือเรื่องการสืบสวนสอบสวน งานที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือ ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ. ป.ป.ช.)

การบรรจุคนให้เหมาะกับงานก็สำคัญ บางทีทางสภาไม่ได้คิดอย่างนั้น ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองต่างๆ เสนอเข้ามา ก็ไม่ได้เป็นไปตามความรู้ความสามารถหรอก เป็นไปตามโควตาเฉยๆ บางคนก็ทำงานไม่เป็น 

หรืออย่างประธานกรรมาธิการกฎหมาย มันต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่ก็ตั้งคนที่ไม่เกี่ยวกับกฎหมายมาเลย แล้วก็ไม่รู้เรื่อง มันก็น่าละอาย เวลาเชิญใครไปใครมา เขาอาจจะคิดก็ได้ว่า เอ็งไม่รู้เรื่องอะไรเลยนี่หว่า

หลังจากที่มารับงานแล้ว เราก็ศึกษาดู เพราะเราเพิ่งเป็น ส.ส. สมัยแรก ว่าความรับผิดชอบเป็นไง ก็มีกรรมาธิการ 15 คน รวมผม สภาให้ตั้งอนุกรรมการ กรรมาธิการชุดละ 2 คณะ เราขอไป 14 คณะ แล้วเราบอกไปด้วย เราไม่รบกวน เราขออ่าน ของบประมาณเท่าเดิมนี่แหละ ไม่รบกวนห้องด้วย คือห้องทำงาน ประชุมมันแน่น เราคิดว่าเราไม่รบกวนห้อง มีตรงไหนว่างค่อยประชุม เพื่อให้งานกรรมาธิการมันสมบูรณ์ที่สุด 

งบประมาณที่ทางสภาให้ ทุกกรรมาธิการเท่ากันหมดเลย ของผมประชุมตั้งแต่ 09.30-18.00 น. กรรมาธิการอื่นบางทีประชุมครึ่งชั่วโมง มีงบประมาณเท่ากัน มีเงินค่าตอบแทนเป็นกรรมาธิการที่มาประชุมเท่ากันวันละ 1,500 บาท ซึ่งผมก็ไม่รู้สภาเขาทำมาได้ยังไง ก็เลยให้สภาส่งไปคิดเวลา เขาเรียกว่าชี้แจงเลขาฯ สภา ให้คุณไปคุยกับสภาให้เรียบร้อยหน่อยว่างานไม่เหมือนกันนะ เหมือนกระทรวง ทบวง กรมกลาง กระทรวงนั้นได้มาก กระทรวงนั้นได้น้อย แล้วแต่ภารกิจ ไม่ใช่เอาจำนวนกระทรวงหาร อันนี้ก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เรางานมาก เงินก็ต้องประหยัด แต่คนอื่นงานน้อย เงินเท่ากับเรา ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ผมอยากจะปรับปรุงตรงนี้

อย่างกรณีถวายสัตย์ไม่ครบ ซึ่งก็เป็นงานของกรรมาธิการ ป.ป.ช. เรื่องนี้เป็นอย่างไร

ในช่วงนั้นเราก็ทำหน้าที่ใหม่ๆ รัฐบาลคุณประยุทธ์ก็เพิ่งเป็นนายกใหม่ๆ ก็มีเหตุการณ์คุณประยุทธ์ถวายสัตย์ไม่ครบ ผมในฐานะที่เป็นประธาน เห็นว่าผิดแล้วจะนั่งเฉยหรือ เห็นโจรมายิง เขาฆ่ากันตาย เรานั่งเฉยหรือ เราในฐานะประธานกรรมาธิการฯ คุณปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ผิดรัฐธรรมนูญนี่ ก็บรรจุเรื่องขอมติ เพื่อทำการศึกษาตรวจสอบเรื่องนี้ ที่ประชุมก็มีมติ 

ที่ประชุม อย่างที่พูดไว้ บางทีก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร จะมีมติยังไงอะไร แม้แต่คนในพลังประชารัฐเองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง พลังประชารัฐส่งมา เราพูดขอมติ เขาก็ลงมติด้วย ทั้งๆ ที่จะเล่นงานลูกพี่เขา มันเป็นอย่างนี้จริงๆ นะ

share

พอมีมติแล้ว จะเชิญใครมาบ้างล่ะ คุณประยุทธ์ยืนหน้า เป็นคนหยิบโพยมา คนข้างๆ ล่ะ ก็ต้องเห็น ได้ยิน ไม่ได้ยินตอนนั้นก็มาได้ยินภายหลังอีก แล้วผมต้องเชิญใคร คุณประยุทธ์ แล้วก็คุณประวิตร คุณประวิตรนี่ใกล้คุณประยุทธ์มากกว่าคุณวิษณุ พอเชิญมา พวกนี้ก็สงสัย ทำไมเชิญกูวะ มึงมีอำนาจยังไง ก็ให้เลขาฯ ตอบมาบ้าง ผมก็เลยสั่งสอนเลขาฯ ไปว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวนะ จะมาถามรายละเอียดงานของกรรมาธิการฯ ว่ามีประเด็นเรื่องนู้นอย่างนี้ไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่คุณนะ ก็ต้องสั่งสอนกันไป ก็เลยเงียบไปเลยจนกระทั่งปัจจุบันนี้

พอเชิญมา เขาก็รู้ว่าเขาผิด แต่เขาก็ไม่อยากมาเอง ส่งรัฐมนตรีช่วยกลาโหมมา มาถึงผมก็บอกคุณเกี่ยวอะไร คุณไปถวายสัตย์ คุณอยู่หลังๆ คุณไปรู้ได้ยังไง กระดาษที่เขาจดอยู่ที่ตัวเขา ไม่ได้อยู่ที่ตัวคุณ ผมเชิญคุณประยุทธ์ ไม่ได้เชิญคุณ ส่วนคุณประวิตรก็ส่งที่ปรึกษามา แล้วคุณเกี่ยวอะไรด้วย ต้องเจอตัว ก็เจ้าตัวเป็นคนพูดเองนี่ ต้องเจ้าตัวเท่านั้น 

เป็นแบบนี้สองครั้งสามครั้ง ผมก็ไม่ยอม ถ้าไม่มาผมจะดำเนินคดีตามกฎหมายนะ ตอนนั้นมันมี พ.ร.บ.คำสั่งเรียกคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ถ้ากรรมาธิการเชิญแล้วไม่มาสองครั้งสามครั้ง ส่งไปดำเนินคดีได้เลย มีความผิด และโทษปรับ ผมก็…เอาล่ะ คุณไม่มาไม่เป็นไร คุณประยุทธ์ คุณก็ลองถูกปรับดูบ้าง คุณประวิตรก็เหมือนกัน แต่ตอนหลังยกเลิก (ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ. นี้ ออกตามรัฐธรรมนูญ 2550 รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่รองรับกฎหมายนี้ - กองบรรณาธิการ) แล้วเขาก็ไม่ยอมมา กรรมาธิการฯ เลยไม่สามารถเรียกเขามาได้ แล้วไม่ใช่เฉพาะกรรมาธิการผมนะ คอยกรรมาธิการอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน ยกเลิกไปแล้ว

ผมฟังดูประธานกรรมาธิการต่างๆ เขาก็บ่น พอไม่มีคำสั่งเรียก เขาก็ไม่มา ก็ไม่ได้ข้อเท็จจริง แต่กรรมาธิการผมมันตรงข้าม เพราะเป็นเรื่องปราบทุจริต คุณไม่มาสิดี ผมไม่เสียเวลาทำงาน คุณไม่มาผมก็สรุปตามข้อเท็จจริง ผิดก็ผิด ไม่ผิดก็ไม่ผิด 

เมื่อคุณประยุทธ์ไม่มา ผมก็เชิญคุณอภิสิทธิ์ เชิญคนนู้นคนนี้มาฟัง แล้วถามว่าถวายสัตย์ครบไหม ก็บอกว่าไม่ครบ ไม่ต้องเอาใคร กรรมาธิการนี่แหละ นั่งฟังดูสิว่าครบหรือไม่ครบ มันก็ไม่ครบใช่ไหม ผมก็สรุปดำเนินคดีไปที่ ป.ป.ช. 

ช่วงนั้นคือช่วงที่คณะกรรมาธิการของคุณเสรีพิศุทธ์โดนป่วนใช่ไหม

พอเราเริ่มที่คุณประยุทธ์ พรรคพลังประชารัฐก็ให้กรรมาธิการในส่วนของพรรคออกไป แล้วส่งคนใหม่มาแทน รู้ไหมเป็นใคร สิระ เจนจาคะ กับ ปารีณา ไกรคุปต์ ซึ่งตอนนี้ตาย (ทางการเมือง) ไปแล้ว 

สองคนนี้ไม่มีความรู้กฎหมาย แต่มาเป็นกรรมาธิการปราบปรามทุจริต ปารีณานี่แม้แต่ที่ดินตัวเองยังไม่รู้เลยว่าผิดกฎหมาย 

คุณสิระกับปารีณาก็มาป่วนผมในการทำงาน หาว่าผมรังแกคุณประยุทธ์ ผมจะไปรังแกยังไง ก็พยายามทำให้กรรมาธิการป่วน จะได้ไม่สามารถทำงานได้ บางทีก็เอาเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมาเล่า อย่างที่ปรึกษาผมก็นั่งใกล้ผม ก็มาบอกว่าที่ปรึกษามานั่งตรงนั้นได้ยังไง ฉันเป็นกรรมาธิการ ฉันต้องมานั่งตรงนี้ ผมบอกไม่ได้ นี่เป็นที่ปรึกษาผม คุณปารีณาก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างผม ผมก็ปล่อยเขา อยากแสดงอะไรก็แสดง 

พอมาป่วนอย่างนี้ เดี๋ยวสิระก็หาเรื่องไปฟ้องผม เดี๋ยวก็ขอปลดผมจากคณะกรรมาธิการ ไม่ดูว่ากรรมาธิการไม่มีหน้าที่มาปลดกรรมาธิการด้วยกัน แต่ผมก็บรรจุให้เลย แล้วกรรมาธิการก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ สภาฯ ยังปลดไม่ได้เลย ต้องเข้าที่ประชุม ส.ส. เท่านั้น 

พอสองคนนี้สู้ไม่ได้ ก็มีการเอากรรมาธิการของชาติพัฒนาออกไป เอา คุณไพบูลย์ นิติตะวัน เข้ามา เขารู้กฎหมายนะ แต่หาเรื่องผมเรื่องกฎหมาย พอไม่ได้ดั่งใจก็ไปรวบรวม ส.ส. พลังประชารัฐ 50 กว่าคนเสนอถอดถอนผม ทำเป็นญัตติเลย เสนอไปยังประธานสภาฯ ประธานสภาฯ ก็ต้องรับเรื่อง ต้องบรรจุเรื่อง ก็ไปขอเขาด่วนอีก สภาฯ ก็บอกว่า เรื่องนี้ไม่ด่วน แต่เขาก็บรรจุให้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเลย จะหมดวาระของสภาฯ ชุดนี้อยู่แล้ว 

ถ้าการเมืองไม่พัฒนา สภาฯ ไม่พัฒนาอย่างนี้มันก็ไม่ไหว มันก็มาหนักที่ผมสิ เวลาที่ผมอยากให้กรรมาธิการรับผิดชอบ ผมก็เลือก คนนี้เอาไปหนึ่งเรื่อง คนนี้ไปหนึ่งเรื่อง ผมในฐานะที่ประสบการณ์เยอะ ก็สามารถประคับประคองให้งานเดินหน้าไปได้ด้วยความเรียบร้อย มันก็มีคดีที่สำคัญๆ เยอะมาก 


คดีแบบไหนบ้าง? 

รู้ไหมว่าข้าราชการกระทรวงไหนถูกร้องมากที่สุด ไม่ใช่ตำรวจนะ แต่เป็นกรมที่ดิน กรมป่าไม้ เป็นหน่วยราชการที่ถูกร้องเข้ามามากที่สุด เพราะกรมป่าไม้ไปอยู่ที่ไหนก็ทุจริตกัน มีเรื่องเข้ากรรมาธิการเยอะอันไหนเราแก้ไขได้ก็แก้ 


มีเรื่องไหนหรือคดีไหนที่อยากชวนประชาชนจับตามองไหม 

สำคัญทุกเรื่องนะ บางทีพอมันเข้ามาแล้วประชาชนไม่ค่อยทราบเรื่องเท่าไร เพราะว่าขณะที่เรากำลังทำงาน มีกรรมาธิการบางคนก็ชอบไปแถลงข่าวอยู่เรื่อย ผมก็เรียกมาตำหนิในฐานะประธาน บอกว่าการแถลงข่าวทำให้คดีเสียหาย อย่างศาล อัยการ เขาทำงานไป ไม่เห็นมีข่าวเลย เขาอาจจะรู้เรื่องการทำงานแต่ขาดกาลเทศะ 


นาฬิกาเพื่อนของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ตอนนี้เป็นอย่างไร พอจะเปิดเผยได้บ้างไหม

คือ ป.ป.ช. สรุปว่าไม่ผิด เป็นการยืมคงรูป เรามีหน้าที่ตรวจสอบ แต่ระหว่างทำ เราไปยุ่งกับรายละเอียดเขาไม่ได้ จนเขาทำเสร็จแล้ว เขาบอกไม่ผิด เราถึงทำได้ หรือไม่ก็ทำก่อน กรณีนี้ก็หาข้อเท็จจริง เชิญคนนั้นคนนี้มาให้ข้อมูลต่างๆ ก็พอจะเชื่อได้ว่ามันผิด 

ยกตัวอย่าง กรมศุลกากรยังติดคำตอบผม 6-7 ข้อด้วยกัน วันนั้นไปที่กรมศุลฯ ก็ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนาฬิกา 20 กว่าเรือนที่บอกกรมศุลฯ ยึดไว้ ที่ได้มาโดยมิชอบ ยึดไว้แล้วอยู่ที่ไหน เขาบอกใช้ภาพถ่ายเอา อย่างนี้มีด้วยหรือ คุณยึดของกลางด้วยภาพถ่าย? ที่เอามาไม่ได้เพราะของกลางอยู่ในบ้านคุณประวิตรหรือเปล่าล่ะ ซึ่งไม่ใช่หรอก แค่นี้ก็ผิดแล้ว 

 

คดีนี้ก็น่าจะทันก่อนครบวาระอายุสภาเดือนมีนาคมหรือเปล่า

ครบก่อน คือตอนนี้ผมจะประชุมทุกวันพุธ พฤหัสฯ แต่พอหลังปีใหม่ก็จะเริ่มประชุมน้อยลง เพื่อให้กรรมาธิการมีเวลาในการสรุปงานมากขึ้น เพราะตอนนี้งานใหม่ก็เข้า งานเก่าก็ยังไม่ออก ถามว่าจะทันไหม คงไม่ทันทั้งหมด แต่จะเลือกเรื่องที่สำคัญให้ทัน

เรื่องใหม่ๆ ที่คนมาร้องช่วงหลัง เช่น เรื่องกฎ กกต. ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมเข้าข่ายการหาเสียง 180 วัน ก็ถือว่าเป็นปัญหาด้วยใช่ไหม

มันเรื่อง กกต. ว่าในช่วง 180 วัน ไม่ให้ผู้แทนหรือพรรคการเมืองลงไปหาเสียง แจกจ่ายข้าวของไม่ได้ แต่ฝ่ายรัฐบาลทำได้ ตรงนี้ไม่เป็นธรรม เหมือนเป็นการออกระเบียบมาเพื่อเอาใจฝ่ายหนึ่ง 

อย่างช่วงที่ผ่านมามีน้ำท่วมเยอะเลย ประชาชนเดือดร้อน ปกติเราก็ลงไปดูประชาชนอยู่แล้ว มีอะไรติดไม้ติดมือ ไปพบเขา ไปแจก โดยเฉพาะช่วงโควิด ก็ต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ ไปช่วยดูแลเยอะเลย แม้กระทั่งอาหารการกิน แล้วในยามที่น้ำท่วม ไม่จำเป็นต้องท่วมที่เราหรอก ท่วมอุบลฯ อุดรฯ ที่ไหนก็ท่วมเหมือนกัน เราก็อยากไปช่วย เงินเราทั้งนั้น

แต่ขณะเดียวกัน นายกฯ เอย รัฐมนตรีเอย รองนายกฯ ใช้งบประมาณไป เลยเห็นว่าระเบียบนี้ไม่เป็นธรรม ถ้าสมมติว่าทางนี้ไปไม่ได้ ทางรัฐบาล เฉพาะที่เป็นนักการเมืองก็ไม่ได้เหมือนกัน ยกเว้นที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่ได้ลงเลือกตั้ง อย่าง คุณวิษณุ เครืองาม จะทำก็ทำไป 

share

ก็มีคนร้องไป ว่า กกต. ทำไมคุณออกกฎแบบนี้ เขาบอกเป็นกฎหมาย คุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ ก็ให้ดูว่า ตอนโควิด-19 เข้ามาใหม่ๆ ถ้าพรรคการเมืองต้องประชุมใหญ่เพื่อรายงานการทำงานในรอบปี จะต้องจัดทำงบการดุลส่ง กกต. เขาไม่ให้มารวมตัวกัน แล้วทำไมคุณผ่อนผันเขาได้ ทำไมอันนี้คุณไม่ผ่อนผันล่ะ ซึ่งเราก็จะเชิญ คุณแสวง บุญมี เลขาฯ กกต. มาคุย

ผมฟังจากผู้สื่อข่าวคนหนึ่ง ลงพื้นที่น้ำท่วมอุบล ระหว่างจังหวัดกับอำเภอวารินชำราบน้ำท่วมหมด ประชาชนต้องไปอยู่บนสะพาน กินไม่ได้ ถ่ายก็ไม่ได้ บ้านก็ไปไม่ได้ เดือดร้อนหมด เงินติดกระเป๋าก็ไม่มี แล้วอย่างนี้ห้ามไม่ให้ผมไปช่วย แล้วถ้าคุณแสวงโดนบ้างจะเป็นยังไง เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะมาให้ข้อเท็จจริง 


ถ้าถามในนามของพรรคเสรีรวมไทย กฎเหล็ก 180 วันส่งผลกระทบเยอะไหม

ก็กระทบ คือเราก็ไม่อยากให้เขามากล่าวหาเราทำผิดกฎหมาย ก็ต้องระมัดระวังตัว อย่างเมื่อสองวันก่อนไปร่วมทอดกฐินกับเขา ไม่ได้ขึ้นกล่าว เดี๋ยวจะหาว่ามาหาเสียง เงินทองก็ไม่ได้ให้ หรือต้องไปเป็นประธานแต่งงานเขา ก็อาจจะกล่าวอวยพรแค่นั้นเอง ตรงไปตรงมาคือไปช่วยเงินเขาก็ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ความจริงมันเป็นประเพณี ใครไปงานไหนก็จะช่วยเขา มันไม่น่าจะมีปัญหา แต่ว่านี่กำหนดอะไรก็ไม่ได้ ชาวบ้านเขาก็งงเหมือนกัน

 

หลังเลือกตั้งคราวหน้า พร้อมจะร่วมงานกับทุกพรรคไหม

ดูชื่อพรรค ‘เสรีรวมไทย’ เพราะฉะนั้นใครก็ได้ทั้งหมด ผมเคยพูดไปแล้วว่า ยกเว้นประยุทธ์ ทำไมต้องยกเว้น เพราะทุกวันนี้ที่มีปัญหาก็เพราะเขายึดอำนาจ คุณประวิตรนี่เขายึดแล้วถึงถูกเชิญมา ถ้าถามว่าคนอื่นได้ไหม ได้ แม้แต่พูดตรงๆ จะดีจะชั่ว ถ้าอยู่รวมกันเราปกครองเขาได้ มันก็จะดีกว่าที่จะปล่อยเสือเข้าป่าไป



Share article
  • Line
  • link

RELATED

+

เพื่อไทยประกาศแนวทางตั้งรัฐบาล โดยทางเลือกสุดท้าย อาจมีบางพรรคไม่ได้ไปต่อ

ไทยรัฐออนไลน์ ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

ยอมรับ
Thailand Web Stat