โลกมันไม่ง่าย แต่เราเติบโตได้ด้วยความเข้าใจ รวม ‘หนังสือเด็ก’ ที่ ‘ผู้ใหญ่’ จะอ่านโลกใบนี้ให้พวกเขาฟัง
...
Summary
- วันเด็กปีนี้ ไทยรัฐพลัสรวมหนังสือเด็กที่น่าสนใจ และบอกเล่าถึงเรื่องท้าทายต่างๆ ในโลก เป็นหนังสือที่ ‘ผู้ใหญ่’ จะอ่านโลกใบนี้ให้เด็กๆ ฟังได้
...
‘ตอนเด็กๆ น่าจะได้อ่านเล่มนี้’
‘อยากมีหนังสือแบบนี้บ้างจังตอนเป็นเด็ก’
นี่อาจเป็นสิ่งที่เราหลายคนคิดเมื่อโตขึ้นมาแล้ว ส่วนหนึ่งคงเพราะเมื่อโตขึ้น เราพบว่าโลกไม่ได้ง่ายอย่างใจคิด อันที่จริงมันเต็มไปด้วยเรื่องชวนสับสนเวียนหัว และข้อถกเถียงมากมายที่หลายครั้งก็กลายเป็นข้อขัดแย้ง
นั่นทำให้ทุกครั้งที่เราเจอหนังสือดีๆ ที่พอจะอธิบายหรือ ‘เตรียมพร้อม’ ให้เราได้เข้าใจเรื่องบนโลก เราจึงคิดว่าอยากมีโอกาสอ่านหนังสือบางเล่มหรือเข้าใจเรื่องบางเรื่องให้ไวกว่านี้
สำหรับคนที่มีลูกหรือมีเด็กๆ อยู่ในชีวิต ความคิดนี้อาจเริ่มกลายเป็นแรงขับให้เราเฟ้นหาหนังสือดีๆ มาให้ลูกหลานใกล้ตัว – และอาจยิ่งดีไปกว่านั้น หากผู้ใหญ่ได้ใช้เวลาอ่านหนังสือไปด้วยกันกับเด็กๆ
จริงๆ แล้วพลังของการอ่านหนังสือร่วมกับเด็กนั้นยิ่งใหญ่ เพราะเด็กไม่ได้เรียนรู้โลกใบนี้จากการ ‘อ่าน’ ตัวหนังสือเท่านั้น ด้วยความที่ร่างกายและสมองของพวกเขากำลังอยู่ในช่วงพัฒนา พวกเขาจึงเรียนรู้โลกผ่านประสาทสัมผัสทั้งหมด สิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่จับต้อง ดังที่เราเรียนรู้วันและคืนผ่านแสง ดังที่เราเริ่มเข้าใจอารมณ์ต่างๆ ผ่านการจดจ้องใบหน้าของพ่อแม่
การอ่านโดยมีผู้ใหญ่เคียงข้าง ออกเสียงไปด้วยกัน รู้สึกไปด้วยกัน เรียนรู้และเข้าใจไปด้วยกัน จึงเป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างประเมินค่าไม่ได้
วันเด็กปี 2025 ในโลกอันกว้างใหญ่และมีเรื่องท้าทายรอมนุษย์ตัวน้อยๆ อยู่นี้ ไทยรัฐพลัสรวมหนังสือเด็กที่น่าสนใจมาจำนวนหนึ่ง (ทั้งสำหรับเด็กเล็กและเด็กที่เริ่มโต) เป็นหนังสือที่ ‘ผู้ใหญ่’ จะอ่านโลกใบนี้ให้เด็กๆ ฟังได้
1. เงือกน้อยจูเลียน (Julian is a Mermaid)
โดย Jessica Love
ผู้แปล : ชลิดา หนูหล้า
ท่ามกลางสังคมที่แปะป้ายว่าเราเป็นใครตั้งแต่ลืมตาดูโลก นี่คือเรื่องราวของเด็กชายจูเลียนผู้หลงใหลในนางเงือกแสนสวย แม้จูเลียนจะไม่มีผมยาวสลวย ไม่มีหางปลาโบกสะบัด แต่เขามีวิธีแปลงกายเป็นนางเงือกในแบบของตัวเอง
จูเลียนอยู่บนรถไฟใต้ดินกับคุณยายของเขาเมื่อเขาเห็นผู้หญิงสามคนที่ประดับประดาด้วยแก้วแหวนเงินทองงดงาม ผมของพวกเธอถูกรีดให้เรียบ ชุดราตรีของพวกเธอพลิ้วไสว และความมั่นใจของพวกเธอพุ่งพล่าน จูเลียนไม่อยากเพียงแค่ชื่นชมนางเงือกเหล่านี้เท่านั้น เขาต้องการร่วมผจญภัยไปกับพวกเธอด้วย เช่นเดียวกับการผจญภัยอื่นๆ จูเลียนมักจะกังวลว่าคุณยายของเขาจะคิดอย่างไร และครั้งนี้ คุณยายของเขาจะคิดอย่างไรหนอเมื่อเห็นจูเลียนแต่งตัวด้วยใบปาล์ม ผ้าม่านลูกไม้ และไข่มุกตั้งแต่หัวจรดเท้า
ในโลกปัจจุบันที่เราทุกคนทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลาย รื้อกรอบกำหนดที่ถูกสร้างไว้อย่างจำกัด นี่คือหนังสือที่ช่วยให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เองเข้าใจเรื่องนี้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย
2. The Hate U Give
โดย Angie Thomas
สตาร์ คาร์เตอร์ เด็กหญิงวัย 16 ปีใช้ชีวิตโดยต่อรองกับโลกสองใบ เธอเติบโตจากย่านยากจน และได้โอกาสเข้ารียนในโรงเรียนเอกชนอันหรูหรา การรักษาสมดุลในโลกที่แบ่งแยกกันด้วยชนชั้นและสีผิวเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ แต่โลกใบนั้นแทบพังทลาย เมื่อเธอเห็นเหตุการณ์ที่ ‘คาลิล’ เพื่อนสนิทวัยเด็กของตัวเองถูกยิงจนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
การเสียชีวิตของคาลิลกลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วประเทศ บางคนเรียกเขาว่าอันธพาล บางคนหาว่าเขาร่วมกับแก๊งค้ายา ขณะที่มีผู้ประท้วงออกมาเดินขบวนบนท้องถนนกู่ร้องชื่อของคาลิล
ตำรวจบางคนและเจ้าพ่อค้ายาในพื้นที่พยายามข่มขู่สตาร์และครอบครัวของเธอ ในขณะที่ผู้คนต่างเฝ้าถามว่าตกลงแล้วในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สตาร์คือผู้ที่กุมคำตอบนี้ไว้ สิ่งที่เธอเลือกจะพูดหรือไม่พูดล้วนอาจพลิกผันโลกรอบตัวของเธอได้ – นี่คือหนังสือที่บอกเล่าการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมไว้อย่างน่าสนใจ และได้รับแรงบันดาลใจอย่างเต็มเปี่ยมจากการเคลื่อนไหว Black Lives Matter
3. Internment
โดย Samira Ahmed
เป็นเรื่องจริงที่โลกใบนี้ป้ายเปื้อนผู้คนที่แตกต่างอยู่เสมอ หนังสือเล่มนี้จึงบอกเล่ามันอย่างเฉียดใกล้ความจริง – อย่างที่มันเป็น
ตัวละคร Layla Amin เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายมุสลิมอายุ 17 ปีที่อาศัยอยู่ในค่ายกักกันในสหรัฐฯ ค่ายที่ถูกสร้างขึ้นจากความกลัวและอคติต่อชาวมุสลิม แต่เธอไม่ใช่เด็กสาวที่จะทนนั่งอยู่ในค่ายตามที่ถูกบังคับ ในทางกลับกัน เธอลุกขึ้นเผชิญหน้า ด้วยการต่อต้านผู้อำนวยการค่ายกักกันและเหล่าผู้คุม ต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเองและชุมชนของเธอ ต่อสู้กับความเงียบที่แผ่เสียงดังไปทั่วสังคม
4. The Story of Harvey Milk & Rainbow Flag
โดย Rob Sanders and Steven Salerno
หนังสือพร้อมภาพประกอบสวยงามเล่มนี้เต็มไปด้วยสีสันละลานตา และเรื่องราวของมันก็อยู่เบื้องหลังสีเหล่านั้น
นี่คือวิธีการกล่าวขานเรื่องเพศและผู้คนที่ต่อสู้เพื่อความหลากหลายทางเพศอย่างกินใจ หนังสือพาย้อนกลับไปถึงการเดินพาเหรดของ LGBTQ+ และ ขบวนการในปี 1978 รวมถึงเรื่องของ Harvey Milk นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ และบทบาทของเขาที่ยังส่งผลมาถึงปัจจุบัน
ธงสีรุ้งซึ่งเป็นที่รู้จักและถูกโบกสะบัดไปทั่วโลก ถูกหนังสือเล่มนี้อธิบายตั้งแต่ต้นกำเนิด และยังทำให้ธงสีรุ้งเข้าใจง่ายขึ้นในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเด็ก
5. I Want My Hat Back
โดย Jon Klassen
เมื่อเจ้าหมีทำหมวกหาย มันจึงไล่ถามสัตว์ทุกตัวว่าเห็นหมวกของมันไหม ใช่เจ้ากระต่ายหรือเปล่านะที่ขี้ขโมย
แม้จะเริ่มต้นจากเรื่องง่ายๆ และหมวกใบเดียว แต่หากมีผู้ใหญ่ร่วมอ่านด้วยสถานการณืเหล่านี้สามารถนำไปสู่การขบคิดและตั้งคำถามได้หลายเรื่อง เช่นเรื่องการโกหกและพิสูจน์ความจริง เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากระต่ายเป็นผู้ขโมย เราเชื่อจากการแรกเห็นหรือคำบอกกล่าวของคนอื่นได้จริงไหม รวมไปถึงเรื่องการเอาคืนแก้แค้น และการตัดสินกันและกัน
แม้จะเป็นแค่หนังสือเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นขุมทรัพย์ทางปรัชญาในการฝึกตั้งคำถามด้วย
6. It Isn't Rude to be Nude
โดย Rosie Haine
หนังสือและภาพแสนน่ารักบันทึกไว้ซึ่งส่วนต่างๆ ของ ‘ร่างกาย’ ไม่ว่าจะสีผิวใด รูปร่างแบบใด หนังสือทำให้เห็นว่าร่างกายของคนเราต่างก็งดงาม แม้จะแตกต่างกัน แม้จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่ออายุมากขึ้น
หนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบที่เป็นรูปอวัยวะมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ก้น หัวนม ภาพแขนที่มีรอยสัก มีขน มีสิว ภาพคนที่มีหนวด ใส่แว่น ทำทรงผมแปลกๆ และอีกมากมาย พูดอย่างเรียบง่ายได้ว่านี่คือภาพของผู้คนที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน และมันอาจมีภาพของตัวเราเองเมื่อยามโตขึ้นอยู่ในนั้นเช่นกัน
หนังสือเล่มนี้นอกจากจะมีภาพประกอบที่สร้างสรรค์และทำให้เด็กๆ สนุกไปด้วยแล้ว บางทีมันอาจทำให้ผู้อ่าน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ โอบรับตัวเราเองและคนอื่นๆ อย่างเข้าใจขึ้นด้วย
อ้างอิง :
Thairath Poll
การวางแผนและความต้องการซื้ออุปกรณ์ตกปลา
คุณสนใจซื้ออุปกรณ์ตกปลาประเภทใด?
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล