Scenery of Successful ภูมิทัศน์แห่งชัยชนะ กับผลงาน ‘Autumn Float’ ผลงานเดียวจากช่างภาพหญิงไทย ในงาน 2023 Tokyo Camera Club Photo Exhibition
...
Summary
- Tokyo Camera Club เป็น Photography Community ที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ตลอดจนมีชื่อระดับสากล ช่างภาพส่วนใหญ่ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพต่างใฝ่ฝันว่าภาพของตนจะได้รับคัดเลือกบ้างสักครั้งในชีวิต
- ประกาศผลเรียบร้อยแล้วสำหรับ 10 ภาพถ่ายสุดท้ายประจำปีนี้ของ 2023 Tokyo Camera Club Photo Exhibition ซึ่งในปีนี้มีคนไทยได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ภาพยอดเยี่ยมประจำปีนี้กับเขาด้วย
- สำหรับนิทรรศการภาพถ่าย 2023 Tokyo Camera Club Photo Exhibition ประจำปีนี้จะจัดแสดงที่อาคาร Shibuya Hikarie ย่านชิบูยา โตเกียว ระหว่างวันที่ 15 ก.ย.–18 ก.ย. 2566 นี้
...
แวดวงนักถ่ายภาพทั่วโลกไปจนถึงผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของญี่ปุ่นมักจะรู้จักกับ Tokyo Camera Club สมาคมถ่ายภาพชั้นนำอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นแห่งนี้กันดี ซึ่งเวทีนี้หลายคนใฝ่ฝันว่าสักวันภาพของตนจะได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในภาพยอดเยี่ยมประจำปีบนเวทีสุดหินนี้กับเขาบ้าง สำหรับในปีนี้ 2023 Tokyo Camera Club Photo Exhibition กิจกรรมใหญ่ไฮไลต์ประจำปีของ Tokyo Camera Club ก็ได้ประกาศผลการคัดเลือกรอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า 1 ใน 10 ภาพถ่ายยอดเยี่ยมประจำปีนี้มีผลงานของช่างภาพชาวไทยในญี่ปุ่นอย่าง แพง-เสาวนีย์ สุนทรารักษ์ รวมอยู่ในนั้นด้วย วันนี้เราเลยถือโอกาสชวนไปพูดคุยทำความรู้จักกับช่างภาพฝีมือเยี่ยมคนนี้ ตลอดจนชวนเดินตามรอยเส้นทางการถ่ายภาพอันน่าประทับใจของเธอมาจนถึงความสำเร็จในวันนี้กัน
อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เราสนใจหันมาถ่ายภาพ
แพง: มันเริ่มมาจากตอนที่เป็นวิศวกร R&D แล้วถูกบริษัทส่งมาดูงานที่ญี่ปุ่นค่ะ คือเราก็ไม่ได้เรียนทางสายถ่ายภาพมาก่อนแล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะมาเป็นช่างภาพด้วย แต่เราชอบดูภาพถ่ายสวยๆ แล้วที่ญี่ปุ่นวิวมันสวยมาก ทีนี้ตอนวันหยุดเราก็อยากพักจากงานเครียดๆ แล้วออกไปเที่ยวด้วย ก็เลยลองซื้อกล้องมาลองถ่ายรูปเล่นๆ ดู เป็นกล้องอัตโนมัติธรรมดานี่แหละค่ะ แล้วมันก็เป็นกิจกรรมที่ทำแล้วสนุกมาก ชอบมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจันทร์-ศุกร์ทำงานจนเครียดแล้วเสาร์-อาทิตย์เราได้สิ่งนี้แหละมาฮีลใจ (หัวเราะ) มันกลายเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นเลยนะ แค่ได้ถ่ายรูปก็มีความสุขแล้ว
พอถ่ายไปเรื่อยๆ ก็เริ่มจริงจังมากขึ้น เริ่มสนใจไปเข้ากลุ่มถ่ายภาพในเพจต่างๆ เริ่มเห็นภาพของคนอื่นมากขึ้น ทำไมเขาถ่ายรูปสวยจังนะ (หัวเราะ) เราก็เลยอยากจะถ่ายรูปสวยๆ แบบนั้นได้บ้าง ก็เลยเริ่มหัดถ่ายภาพจริงจังมากขึ้นค่ะ เริ่มเอาภาพไปแชร์ในกลุ่ม เริ่มถามวิธีการถ่าย แล้วก็เริ่มหัดเรียนถ่ายรูปด้วยตัวเอง ก็จะเริ่มจากพวกการแต่งภาพนี่แหละค่ะ ทำ process รูปวิธีต่างๆ เสิร์ชหาข้อมูลความรู้ในอินเทอร์เน็ตนี่แหละ เช่น ถ้าเราอยากถ่ายน้ำตกให้สวยจะต้องทำอย่างไร พอรู้ก็ออกไปฝึกถ่ายเลย พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ แล้วก็เริ่มไปหาลงคอร์สออนไลน์ดู เรียนรู้วิธีการควบคุมกล้อง ปรับรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) อะไรพวกนี้ ก็พัฒนาเรื่องโน้นเรื่องนี้ต่อมาเรื่อยๆ ตามความสนใจเลย คือมันไม่ได้ทำเพราะมุ่งเป็นช่างภาพนะคะ แต่มันทำเพราะเราสนุก เราชอบถ่ายรูป เราอยากรู้ เราอยากถ่ายภาพแบบที่คนอื่นเขาถ่ายกันสวยๆ บ้าง แค่นั้นเอง
ชอบถ่ายภาพแนวไหนเป็นพิเศษ
แพง: ชอบถ่ายวิว ถ่ายธรรมชาติ ถ่าย Landscape ค่ะ แล้วก็ประทับใจแทบทุกที่ในญี่ปุ่นเลยเพราะวิวสวยมาก มีอะไรให้ถ่ายเยอะ ที่สำคัญที่นี่มีธรรมชาติ 4 ฤดู แล้วในแต่ฤดูก็บรรยากาศต่างกัน ในแต่ละที่ก็จะมีเสน่ห์แตกต่างไปตามฤดูด้วย แล้วไม่ใช่แค่เรื่องธรรมชาตินะคะ ในตัวเมืองเองก็มีอะไรให้ถ่ายเยอะมาก อย่างใครที่ชอบถ่ายสาย Street Art หรือ Snap Shot นี่ก็จะมีให้ถ่ายตลอดเวลา หรือพวกถ่ายแนว Architecture ถ่ายเมืองอะไรพวกนี้ ตึกสวยๆ ก็เยอะมากแล้วก็มีตึกใหม่ๆ ตลอด ยังไม่นับเทศกาลต่างๆ อีก หรือพวกคาเฟ่ อาหาร ขนม มีอะไรให้ถ่ายเยอะมาก เป็นประเทศที่สนุกกับการถ่ายภาพได้ตลอดเวลา
รู้จัก Tokyo Camera Club ได้อย่างไร และเวทีนี้น่าสนใจอย่างไร
แพง: Tokyo Camera Club เป็น Photography Community ของญี่ปุ่นที่ค่อนข้างดังมากๆ คนญี่ปุ่นที่ชอบการถ่ายรูปไม่ว่าจะมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นก็ใฝ่ฝันว่าสักวันภาพของตัวเองจะได้รับคัดเลือกจาก Tokyo Camera Club บ้าง คอมมูนิตี้นี้เปิดเป็นสาธารณะด้วยนะคะ เป็นที่รู้จักระดับสากลด้วย ไม่ใช่เฉพาะคนญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะคนทั่วโลกก็สามารถส่งภาพให้เขาคัดเลือกได้เหมือนกันค่ะ แพงเริ่มรู้จักจากการเห็นรูปขึ้นมาแนะนำใน IG ก่อน แล้วก็เห็นฟีดแนะนำใน Facebook เราก็ดูรูปที่เขาหยิบมาแชร์เรื่อยๆ แล้วทีนี้มีอยู่ครั้งหนึ่งได้ไปออกทริปกับพี่คนไทยคนนึงคือเค้าเคยถูกคัดเลือกรอบสุดท้ายของ Tokyo Camera Club มาก่อน เป็นคนไทยคนแรกเลย คุยกันไปกันมาก็เลยได้รู้จักคอมมูนิตี้มากขึ้น รู้ว่าต้องทำอย่างไรส่งอย่างไร
การส่งภาพไม่ยากเลยค่ะ ทุกคนก็ส่งได้ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Tokyo Camera Club เป็นองค์กรถ่ายภาพที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเขาจะจัดประกวดถ่ายภาพหลายรายการมาก แล้วพอปลายปีเขาก็จะรวบรวมเอาภาพถ่ายที่ชนะการประกวดรายการต่างๆ มาจัดนิทรรศการ Tokyo Camera Club Photo Exhibition ค่ะ ทีนี้ในแต่ละปีก็จะมีโปสเตอร์หลักในการโปรโมตงาน แล้วภาพที่จะนำมาใช้โปรโมตก็จะเป็น 10 ภาพยอดเยี่ยมประจำปีที่เขาจะคัดมาจากภาพถ่ายบนโลกออนไลน์ที่ติดแฮชแท็ก #tokyocameraclub แล้ว 10 ภาพยอดเยี่ยมนี้ก็จะกลายเป็นนิทรรศการหลักของงานในแต่ละปีด้วย
รูปที่ติดแฮชแท็กจะเป็นรูปอะไรก็ได้ถ่ายที่ไหนก็ได้ค่ะ จะมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพก็ส่งได้ไม่มีข้อจำกัดอะไร แล้วในทุกๆ วันทาง Tokyo Camera Club ก็จะคัดเลือกภาพที่ติดแฮชแท็กมาแชร์โปรโมตในเว็บไซต์แล้วก็ Social Media ต่างๆ ของตัวเอง เขาก็จะให้เครดิตโดยลิงก์กลับไปยังเจ้าของภาพด้วยนะคะ ซึ่งตรงนี้มันก็จะทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นด้วย แล้วพอปลายปีภาพทั้งหมดที่ได้รับการคัดเลือกมาแชร์ในปีนั้นๆ ก็จะถูกนำมาคัดเลือกในรอบสุดท้ายให้เป็น 10 ภาพยอดเยี่ยมแห่งปีอีกทีเพื่อนำไปเป็นภาพหลักสำหรับการโปรโมตงานนิทรรศการประจำปี สำหรับตัวแพงเองเริ่มติด #tokyocameraclub มาตั้งแต่ปี 2016 ก็ได้รับคัดเลือกไปแชร์หลายครั้งอยู่นะคะ แต่กว่าจะได้เป็น 10 ภาพสุดท้ายจริงๆ ก็ปี 2023 นี่แหละค่ะ
เล่าเรื่องราวข้างหลังภาพที่ได้รับรางวัลในปีนี้ให้เราฟังหน่อย
แพง: ภาพของเราที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นภาพยอดเยี่ยมในปีนี้มีชื่อว่า Autumn Float ค่ะ เป็นภาพถ่ายใบเมเปิ้ลสีแดงใบเดียวลอยเด่นอยู่กลางอากาศแล้วมีภาพภูเขาไฟฟูจิเป็นแบ็กกราวนด์เบลอๆ อยู่ด้านหลัง หลายคนเห็นภาพนี้แล้วมาถามเราเยอะมากว่าโยนใบไม้กี่ครั้งถึงถ่ายได้อย่างนี้ (หัวเราะ) แต่ความจริงคือใบเมเปิ้ลนี้ห้อยอยู่บนใยแมงมุมอีกทีค่ะ จริงๆ แล้วมุมนี้แพงเคยไปถ่ายหลายครั้งแล้ว มันเป็นมุมยอดฮิตเลย มุมภูเขาไฟฟูจริงล้อมรอบด้วยใบไม้แดงที่ทุกคนรู้จักกันดี แล้วแพงก็เคยถ่ายรูปมุมนี้ส่งประกวดได้รางวัลมาแล้วด้วย
อย่างวันที่เราไปนี่คนก็เยอะมาก ขนาดตื่นไปตอนตี 3 ก็ยังไม่ทันเลย (หัวเราะ) เรามาถ่ายบ่อยจนเราคิดว่าจะถ่ายอะไรดีนะ แล้วพอถ่ายไปถ่ายมาอยู่ดีๆ ก็เหลือบมองไปเห็นว่ามีใบเมเปิ้ลหนึ่งติดอยู่บนใยแมงมุม เราก็แบบเอาวะถ่ายมุมนี้แหละ ตอนนั้นคนเยอะมากแต่ไม่มีใครถ่ายมุมนี้เลย มีเราถ่ายตรงนั้นอยู่คนเดียว พอถ่ายเสร็จสักพักก็มีลุงคนข้างๆ เข้ามาถ่ายตามบ้าง แล้วอีกสักพักพอหันไปอีกทีใยแมงมุมก็ขาดไปแล้ว ใบไม้ก็หล่นหายไปไหนไม่รู้ มันเลยดูเหมือนเป็นโมเมนต์พิเศษสำหรับเราไปเลย
รูปนี้ถ่ายตอนช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2020 ค่ะ จริงๆ แล้วเราเคยส่งภาพนี้ประกวดที่อื่นด้วยนะแล้วก็เคยได้รับรางวัลมาก่อนหน้าหลายเวทีด้วยเหมือนกัน ทั้งในญี่ปุ่นเองแล้วก็ต่างประเทศด้วย อย่างเช่นรางวัล National Award Winner ของ 2021 Sony World Photography Awards แล้วก็รางวัล Silver ในหมวด Nature สำหรับกลุ่ม Non-Professional / Amateur / Student ของเวที Prix de la Photographie, Paris (P×3) ประเทศฝรั่งเศส เป็นต้นค่ะ
รู้สึกอย่างไรในตอนที่รู้ว่าได้รับคัดเลือกเป็น 10 ภาพสุดท้ายในปีนี้
แพง: ตื่นเต้นและดีใจมากค่ะ เพราะเราส่งมาหลายปีก็คาดหวังทุกปี (หัวเราะ) ช่วงปลายปีต้องมานั่งลุ้นว่าภาพเราจะได้รับคัดเลือกไหม จริงๆ เพราะในแต่ละปีที่ภาพเราถูกคัดเลือกไปแชร์ไม่ได้เยอะนะคะ บางคนได้คัดเลือกเป็นสิบๆ ภาพเลยก็มี เราเลยต้องลุ้นหนักหน่อย (หัวเราะ) ช่วงหลังๆ เริ่มสนิทกับคนที่เคยได้รับคัดเลือกมากขึ้น ก็ได้คุยกันแล้วรู้ว่าก่อนประกาศสาธารณะอย่างเป็นทางการคนที่ได้รับคัดเลือกจะรู้ก่อนเพราะเขาจะส่ง message มาให้ก่อน
ซึ่งเราก็ได้รับ message ส่งมาให้ก่อนจริงๆ แต่ตอนนั้นก็ยังงง ยังไม่อยากเชื่อว่าใช่เหรอ นี่มันจริงเหรอ (หัวเราะ) ทางสตาฟฟ์ก็ message มาบอกว่าให้เรา add เฟซบุ๊กของประธานบริษัทหน่อยเขามีเรื่องอยากคุยด้วย ไอ้เราก็คิดไปว่า เอ๊ะ! หรือเขาอยากติดต่อจ้างงาน (หัวเราะ) แต่หลังจาก add ไปทางประธานบริษัทเขาก็มาแสดงความยินดีกับเราอย่างเป็นทางการที่ได้รับคัดเลือก ตอนนั้นเราก็ดีใจมากๆ เลยค่ะ
เคล็ดลับการถ่ายภาพเฉพาะตัวที่อยากแนะนำ
แพง: จริงๆ ก็ไม่มีเคล็ดลับพิเศษอะไรต่างไปจากช่างภาพทุกคนเลยค่ะ แต่ขอแชร์ประสบการณ์เป็นข้อแนะนำดีกว่า ตัวแพงเองจะถ่ายภาพแนว Landscape เป็นหลักใช่ไหมคะ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลยก็คือเราอยากได้ภาพแบบไหนหลังจากนั้นก็ต้องเช็กพยากรณ์อากาศก่อนไปเพื่อให้รู้ว่าวันที่เราอยากไปเนี่ยสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เอื้อต่อการถ่ายภาพในมุมมองที่เราอยากได้หรือเปล่า พยากรณ์อากาศและช่วงเวลาจะเป็นเหมือนตัวแปรสำคัญที่ช่วยกำหนด Mood & Tone ของภาพได้เลย
ส่วนมากพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นค่อนข้างจะแม่น ถ้าเช็กไปก่อนเรามีโอกาสสูงที่จะได้รูปอย่างที่อยากได้ถึง 80% เลยค่ะ แต่มันก็จะมีอยู่ที่นึงที่ไม่ค่อยแม่นและไม่แน่นอนเลยก็คือบริเวณแถบรอบภูเขาไฟฟูจินี่แหละ (หัวเราะ) เดาได้ค่อนข้างยาก คิดว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์แบบเรา วันนี้ไปฟ้าสว่างสดใส วันพรุ่งนี้อาจเมฆครึ้มจนไม่เห็นภูเขาเลยก็ได้ ตอนเช้าฟ้าแจ่มพอบ่ายมาฟ้ามืดก็มี หรือบางทีวันที่เราเช็กไปแล้วว่าอากาศดีแน่นอน แล้วพอไปถึงก็อากาศดีจริงๆ นะ แต่บนยอดของภูเขาไฟฟูจิกลับมีเมฆมาบังอย่างนี้ ไม่ก็ถ่ายออกมาไม่สวยอย่างที่ต้องการ มันแล้วแต่ดวงจริงๆ ส่วนมากคนที่ได้รูปฟูจิสวยๆ รูปแปลกๆ ถ่ายยากๆ อะไรทำนองนี้มักจะเป็นตากล้องท้องถิ่นที่บ้านอยู่แถวนั้น แต่ถึงอย่างนั้นฟูจิก็ยังมีเสน่ห์เสมอค่ะ
การเป็นช่างภาพไทยในญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง
แพง: จริงๆ เราก็ถือว่ายังไม่ได้มีชื่อเสียงหรือโดดเด่นอะไรมากนะคะ แล้วก็ไม่ได้ทำงานสายช่างภาพแบบมืออาชีพขนาดนั้น ปกติถ้าจะทำสายอาชีพจริงๆ อาจต้องไปสมัครเข้าเอเจนซี่ถ่ายภาพต่างๆ ซึ่งเขาก็จะมีงานแบบเป็นจริงเป็นจังมากให้ ตัวแพงเองก็ไม่ถึงกับจริงจังอะไรขนาดนั้น มีงานเข้ามาบ้างประปราย เพราะแพงจะมีเพจของตัวเอง เราก็ประกาศผ่านเพจตรงนั้นว่ารับถ่ายรูปนะ ใครอยากให้ถ่ายก็ติดต่อมาได้ หรือบางทีคนที่ชอบภาพถ่ายของเราเขาก็ติดต่อมาว่าอยากให้ไปถ่ายให้หน่อยก็มี หรือไม่บางทีนิตยสารหรือสื่อต่างๆ ที่อยากเอาภาพเราไปใช้เขาก็จะติดต่อมาขอซื้อภาพไปลงก็มีเหมือนกันค่ะ
พอเราเริ่มได้รางวัลก็จะมีคนรู้จักเรามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นด้วย อย่างเราก็รับถ่ายภาพท่องเที่ยวด้วยเวลามีคนไทยมาเที่ยวโตเกียวก็จะติดต่อให้เราไปถ่ายภาพให้ก็มี ระยะหลังก็เป็นที่รู้จักในหมู่คนญี่ปุ่นมากขึ้น บางทีเขาก็แนะนำต่อๆ กัน อย่างตอนนี้พอเราได้รับคัดเลือกให้เป็น 10 ภาพสุดท้ายของ 2023 Tokyo Camera Club Photo Exhibition เราก็ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น คือตรงนี้มันเป็นเสมือนรางวัลแห่งเกียรติยศมากกว่า ไม่ได้มีรางวัลพิเศษหรือเงินรางวัลให้แต่อย่างใด แต่เราจะได้ชื่อเสียงและ Connection รวมถึงได้รับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น ได้โอกาส Connection กับสปอนเซอร์ขององค์กรซึ่งมีเยอะมากๆ คนที่เคยได้รับคัดเลือกมาก่อนเขาบอกว่าบางที sponsor ก็มักจะเลือกจ้างงานจากกลุ่มนี้เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติช่างภาพด้วย หรือบางทีทางสมาคมเองก็จะมาจ้างงานพวกเรา รับงานจากองค์กรอิสระไปจนถึงหน่วยงานรัฐต่างๆ มาให้ทำ แล้วก็โอกาสอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมาจากเวทีนี้
วัฒนธรรมการถ่ายภาพในญี่ปุ่นที่ควรเคร่งครัดและปฏิบัติตาม
แพง: คนญี่ปุ่นเป็นคนมีวินัยสูงและเคารพกฎระเบียบมาก เรื่องถ่ายภาพก็เช่นกันเขาค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องกฎต่างๆ ของสังคม อย่างพวกเรื่องสิทธิส่วนบุคคล หรือการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมในที่สาธารณะ จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่กฎการถ่ายภาพเสียทีเดียวค่ะ มันเป็นกฎปกติของสังคมในตัวด้วย อย่างบ้านเราทำอะไรแล้วก็ชอบยืดหยุ่น ไม่เป็นไรหรอกน่า แอบทำคงไม่มีคนเห็น มาที่ญี่ปุ่นก็ควรต้องระวังให้ดี อย่าทำอะไรตามใจแบบที่เคยชิน ให้เคารพกฎสังคมที่นี่ด้วย
อีกเรื่องก็คือการเคารพธรรมชาติ อย่างที่เรารู้กันว่าคนญี่ปุ่นผูกพันและให้ความสำคัญกับธรรมชาติมาก บ้านเราอาจจะเอากล้องไปถ่ายรูปใกล้ๆ ได้ แต่ที่นี่ถ้าทำแบบนั้นอาจโดนมองได้ เพราะมันอาจทำลายธรรมชาติได้ โดยเฉพาะถ้ามีรั้วกั้นนี่ก็ต้องระวัง อย่างแอบข้ามรั้วหรือแม้แต่เอาขาตั้งกล้องเลยเข้าไป โอเคดอกไม้อาจจะไม่เสียหายแต่ธรรมชาติอื่นๆ อย่างเช่นหญ้าที่บางทีเขาปลูกไว้ก็เสียหายได้เหมือนกัน ตรงนี้ต้องระวังให้มากเลยค่ะ หรือบางทีเราคิดว่าไม่มีคนเห็น ก็แอบทำไป แต่บางทีพอเราเอารูปไปแชร์ คนญี่ปุ่นจะรู้ทันทีว่าถ้าจะได้รูปแบบนี้มุมนี้มาต้องแหกกฎอะไรมาแน่ๆ แล้วปกติมันเป็นธรรมเนียมที่คนญี่ปุ่นเขาไม่ทำกัน แทนที่รูปของคุณจะได้รับการชื่นชม ก็อาจทัวร์ลงแทนได้ เพราะคนญี่ปุ่นเขาเคร่งเรื่องกฎระเบียบมาก
3 แหล่งถ่ายรูปสวยในญี่ปุ่นที่อยากแนะนำ
แพง: ด้วยความที่เราเป็นคนชอบถ่ายวิวเนอะก็เลยจะขอแนะนำแนวธรรมชาติก็แล้วกัน อันดับหนึ่งในดวงใจของเราเลยก็คือ จ.นางาโนะ (Nagano) ค่ะ ธรรมชาติยังสวยสมบูรณ์มากๆ ทุกฤดูเลย คนไทยอาจจะรู้จัก Tateyama-Kurobe Alpine Route หรือเส้นทาง Japanese Alps มากขึ้น เริ่มรู้จักคามิโคจิ (Kamikochi) แต่นางาโนะยังมีมุมธรรมชาติสวยๆ อีกเยอะมาก อยากแนะนำให้ลองมาเที่ยวมาถ่ายรูปกันดู
ที่ต่อมาที่อยากแนะนำก็คือฟุกุชิมะ (Fukushima) เป็นอีกเมืองที่ถ่ายวิวภูเขาและธรรมชาติได้สวยมากๆ หลายคนเตือนว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อกัมมันตรังสีปนเปื้อนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนี้หลายที่ก็เริ่มปลอดภัยมากขึ้น ด้วยความที่ช่วงหลังมานี้ไม่มีคนค่อยกล้าไปเที่ยวเท่าไรธรรมชาติก็เลยฟื้นฟูและสมบูรณ์มาก สวยมาก หรือถ้าใครกลัวเรื่องนี้จริงๆ ก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ในฟุกุชิมะที่ปลอดภัยไม่โดนกัมมันตรังสี เป็นจังหวัดที่อยากให้ทุกคนปรับทัศนคติใหม่และอยากชวนให้มาเที่ยวกันเยอะๆ
สถานที่สุดท้ายที่อยากแนะนำก็คือภูเขาไฟฟูจินี่แหละค่ะ แพงว่ามันเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงญี่ปุ่นได้ดีที่สุดแล้ว ถ่ายออกมายังไงก็สวย แล้วยังมีมุมให้ถ่ายอีกเยอะมาก หรือมุมเดิมๆ ก็ยังมีเสน่ห์เปลี่ยนไปตลอดเวลา เป็นสถานที่ที่ไปซ้ำได้ไม่เบื่อเลยจริงๆ แล้วก็มักจะได้รูปมุมมองใหม่ๆ กลับมาเสมอ จะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัยเชื่อว่ายังไงฟูจิก็ยังคงอยู่ในใจทุกคนไปตลอดกาล
แพง: ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าแพงไม่ได้สายเรียนถ่ายรูปมาหรือสนใจกล้องแบบจริงจัง เราถ่ายรูปเพราะความสนุกและความสุข เราชอบดูภาพสวยๆ แต่ก็ไม่เคยรู้จักตากล้องคนไหนเป็นพิเศษเลย แล้วก็ไม่เคยตามช่างภาพคนไหนด้วย แต่หลังๆ พอดูภาพถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยเริ่มสนใจว่าใครถ่าย แต่เราชอบแนวทางการถ่ายภาพของเขามากกว่าไม่ถึงกับว่าชอบแบบเป็นตากล้องในดวงใจอะไร อย่างช่างภาพที่เราชอบดูก็บ่อยๆ จนจำได้ก็คือ Daniel Corden ภาพเขาที่เราชอบจะออกแนวสว่างๆ ฟุ้งๆ โทนหวานๆ อะไรทำนองนี้
อยากแนะนำอะไรสำหรับคนอยากมาถ่ายภาพในญี่ปุ่นบ้าง
แพง: ถ่ายภาพในญี่ปุ่นยุคนี้มันไม่ยากเลย อีกอย่างแสงธรรมชาติของญี่ปุ่นมันสวยอยู่แล้ว ถ่ายออกมายังไงก็สวย จริงๆ แนะนำให้เตรียมตัวให้พร้อมมากกว่า หาข้อมูลของสถานที่ที่เราอยากไปให้ดี เช็กสภาพอากาศก่อนไปสักหน่อย แล้วก็เคารพกฎระเบียบของญี่ปุ่น ปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด รักษามารยาทในที่สาธารณะ หรือถ้าใครขับรถเที่ยว ที่ห้ามจอดก็ไม่ควรจอด อยากหยุดรถข้างทางถ่ายรูปในที่ที่เขาห้ามหยุดก็ไม่ควรทำ เท่านี้เราก็จะถ่ายรูปได้อย่างสนุกและมีความสุขได้ทั่วญี่ปุ่น
แพง: ฮอกไกโด (Hokkaido) ค่ะ จริงๆ เราเคยไปถ่ายที่ฮอกไกโดแล้วแหละ แต่เคยไปแค่ช่วงหน้าหนาว แล้วก็ไปแค่ไม่กี่ที่ ฤดูอื่นก็ยังไม่เคยไปเลย จริงๆ ฮอกไกโดมันกว้างมาก แล้วก็มีอะไรสวยๆ น่าสนใจเยอะมากที่เรายังไม่เคยถ่ายและไม่เคยไป
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tokyo Camera Club
+Website: https://tokyocameraclub.com
+FB (JP): www.facebook.com/camera.jpn
+FB (EN): www.facebook.com/camera.us
+Twitter (X): https://twitter.com/tokyocamerajp
