All About Lily Chou-Chou : สองทศวรรษแห่งชีวิตบัดซบของวัยรุ่น และวัฒนธรรมแฟนคลับที่ปลอบประโลมพวกเขา

หมายเหตุ : บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของหนัง

หากดูจากภาพภายนอก ยูอิจิ เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นเงียบ หงิม หน้าตาน่าเอ็นดู ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

ทว่าภายใต้รอยยิ้มที่ผุดโผล่ขึ้นมาเป็นครั้งคราวนั้น โลกของเขากลับไม่ได้สว่างสดใสอย่างที่ใครคิด

ยูอิจิอยู่ในครอบครัวที่มีสถานะความสัมพันธ์ดำเนินไปแบบแกนๆ ทั้งแม่ที่ดูจะใส่ใจลูกชายคนเล็กมากกว่าเสมอ, พ่อที่ดูจะเป็นที่พึ่งให้เขาได้มากที่สุดก็แค่จากการแอบให้เงินค่าขนมลูก และน้องชายที่ดูแทบจะไม่มีความผูกพันทางใจกับพี่ชายอย่างเขาเลย

และเขาก็ยังอยู่ในสังคมโรงเรียนที่มีบรรยากาศคุกรุ่นไปด้วยความขัดแย้งน้อยใหญ่ ทั้งจากความหวังดีของบรรดาคุณครู อันเป็นผลมาจากความห่วงใยที่พวกเขามีต่อเกรดการเรียนที่ตกฮวบ และพฤติกรรมการขโมยของของเขาในร้านขายซีดีเพลง ซึ่งล้วนเป็นความหวังดีที่เขาไม่เคยต้องการ

ความขัดแย้งจากความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปภายในกลุ่มเพื่อน จากความสนิทสนมเมื่อช่วงแรกเริ่ม ที่แปรผันมาเป็นการกลั่นแกล้งกันอย่างไร้เหตุผล และรุนแรงขึ้นทุกขณะในปัจจุบัน 

และความขัดแย้งจากความรู้สึกผูกพันอันแสนสับสนที่เขามีต่อเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นสองคน หนึ่ง, คือคนที่เขาแอบรักมานาน และสอง, คือคนที่ดูเหมือนจะแอบชอบเขา

ในระหว่างที่ยูอิจิต้องดิ้นรนใช้ชีวิตอย่างเปลี่ยวเหงาเพื่อผ่านพ้นความรู้สึกบัดซบในแต่ละวันไปให้ได้ การได้ตกอยู่ในภวังค์ไปกับบทเพลงล่องลอยหลอกหลอนของ ลิลี่ ชูชู -ศิลปินหญิงที่เขาหลงรักจนถึงขั้นสถาปนาตัวเองเป็นแอดมินประจำเว็บบอร์ดเกี่ยวกับลิลี่ในโลกออนไลน์- เพียงลำพังกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยปลอบประโลมเขาได้ดีที่สุดแล้ว 

เพราะบทเพลงที่ทั้งโหยไห้และเกรี้ยวกราดของลิลี่นั้น คล้ายกับเป็น ‘เสียง’ ที่สามารถเชื่อมต่อกับความรู้สึกว้าวุ่นภายในจิตใจของเขาได้ และเป็นเหมือน ‘เสียง’ ที่เป็นตัวแทนของเขา โดยเฉพาะในสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าจะสื่อสารออกมาให้คนรอบข้างรับรู้ได้ยังไง

ลิลี่ ชูชู จึงเป็นเพียงที่พึ่งเดียวของวัยรุ่นอย่างเขา ในโลกที่ดูจะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนเข้าใจปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าในแต่ละวันอย่างแท้จริง 

เป็นเวลากว่าสองทศวรรษมาแล้ว ที่เรื่องราวของยูอิจิใน All About Lily Chou-Chou (2001) หนังวัยรุ่นสุดคลาสสิกของผู้กำกับ ชุนจิ อิวาอิ ถูกบอกเล่าออกมาให้คอหนังทั่วโลกได้สัมผัส แต่ก็ดูเหมือนว่าชีวิตบัดซบของตัวละครเด็กมัธยมอย่างเขา จะยังคงสะท้อนภาพชีวิตของวัยรุ่นอีกหลายคนในยุคนี้ได้ราวกับไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก นับจากความสัมพันธ์ในครอบครัวและโรงเรียนที่มีแต่ความขัดแย้งซ้ำซาก ไปจนถึงวัฒนธรรมแฟนคลับที่กลายมาเป็นเครื่องยึดโยงจิตใจอันแหลกสลายไม่เว้นแต่ละวันของพวกเขา เช่นเดียวกับที่กลุ่มวัยรุ่น (และกลุ่มเลยวัยรุ่น) ในตอนนี้ที่คลั่งไคล้ไอดอลเกาหลีอย่างสุดจิตสุดใจ

ผู้ชมอย่างเราอาจไม่แน่ใจนักว่า ความสัมพันธ์แบบ ‘ไม่ทุกข์ แต่ก็ไม่ได้สุข’ ในครอบครัวของยูอิจิ และความจุ้นจ้านของเหล่าคุณครูที่พยายามกล่อมเกลาให้เขากลายเป็น ‘เด็กดี’ ตามขนบให้ได้นั้น จะส่งผลกระทบกับการมองโลกด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวของเขามากน้อยแค่ไหน 

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ความรู้สึกขัดแย้งภายในจิตใจที่เขามีต่อเพื่อนๆ รอบข้าง น่าจะส่งผลกับเขาในระดับที่เรียกได้ว่า ‘เข้มข้น’ เลยทีเดียว

ยูอิจิมีเพื่อนที่เขารู้สึกสนิทด้วยมาตั้งแต่ชั้นประถมอย่าง ชูสุเกะ นับตั้งแต่ตอนที่ได้เข้าร่วมชมรมเคนโด้พร้อมกัน โดยในตอนนั้น ชูสุเกะยังเป็นเด็กฐานะดีที่แข็งขันและมีน้ำใจ เขามีคุณแม่ยังสาวที่แสนใจดี ผู้ช่วยคอยดูแลยูอิจิอย่างดีเมื่อครั้งที่เขาไปนอนค้างบ้าน และเขาก็ยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการพาเพื่อนๆ ในกลุ่ม จัดทริปไปเที่ยวทะเลที่โอกินาว่า ด้วยความสนุกสนานเฮฮาตามประสาวัยรุ่นวัยใสๆ

ก่อนที่ทริปดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของพวกเขาไปตลอดกาล เริ่มต้นจากความตายอันไม่คาดฝันของผู้ใหญ่คนหนึ่งที่พวกเขาพบเจอระหว่างทริป และปิดฉากด้วยประสบการณ์เฉียดตายของซูสุเกะ เมื่อตัวเขาต้องจมน้ำจนเกือบไม่ได้มีชีวิตรอดกลับมา

ชุดเหตุการณ์เหล่านั้นทำให้ชูสุเกะเปลี่ยนไปเป็นละคนหลังจากเดินทางกลับมา และหลังจากที่พบว่าพ่อแม่ของเขาหย่าร้างกัน-ธุรกิจโรงงานที่บ้านเจ๊งไม่เป็นท่า เขาก็กลายเป็นคนที่ไม่สนใจการเรียนและกิจกรรมอีกต่อไป เอาแต่หมกมุ่นกับการกลั่นแกล้งรังแกเพื่อนนักเรียนคนอื่น ทั้งยังเป็นหัวหอกในการบีบให้เพื่อนๆ ในกลุ่มออกไปทำเรื่องเลวร้ายตามคำสั่งของเขาอีกหลายอย่าง 

โดยในจำนวนนั้น ก็คือการบังคับให้เพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นอย่าง ชิโอริ ไปขายตัวเพื่อหาเงินมาให้พวกเขา ซึ่งยูอิจิก็ถูกชูสุเกะสั่งให้คอยดูแลเธอทำภารกิจแต่ละครั้งให้สำเร็จลุล่วง (จนดูเหมือนว่าความรู้สึกผูกพันที่ชิโอริมีต่อยูอิจิอย่างน่าประหลาดนี้ จะทำให้เธอเริ่มชอบเขาขึ้นมา) หรือแม้แต่การไปคุกคามเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นอีกคนอย่าง โยโกะ ที่ยูอิจิแอบชอบและเฝ้ามองเธอเล่นเปียโนมานานนับปี ซึ่งมันก็ได้สร้างความรวดร้าวให้เขาอย่างที่สุด

อย่างไรก็ดี ความผูกพันระหว่างยูอิจิกับผู้หญิงสองคนที่ตกเป็น ‘เหยื่อ’ ของชูสุเกะนี้เอง ที่เป็นแรงผลักดันให้ตัวเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป โดยเฉพาะกับความรู้สึกต่อต้านชูสุเกะที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ซึ่งทำให้ยูอิจิเลือกที่จะลงมือกระทำ ‘บางสิ่ง’ มากกว่าที่จะเอาแต่หลบหนีจากโลกความจริง ด้วยการฟังเพลงและพร่ำบ่นกับคนในเว็บบอร์ดถึงความดีงามของ ลิลี่ ชูชู แบบเมื่อครั้งเก่าก่อน

นอกจากนี้ ความสัมพันธ์แบบ ‘ทั้งรักทั้งชัง’ ที่ยูอิจิมีต่อชูสุเกะ ก็ยังโยงใยไปกระทบชิ่งกับความรักที่เขามีต่อลิลี่ด้วย เมื่อเขาได้พบความจริงที่ว่า เพื่อนที่กลั่นแกล้งเขาและเพื่อนๆ มาตลอดคนนี้ ก็หลงใหลในบทเพลงของลิลี่ด้วยเช่นกัน – บทเพลงอันเป็นเสมือนที่พึ่งพิงทางใจที่ช่วยปลอบประโลมและปกป้องเขาจากปัญหารอบด้าน โดยเฉพาะจากมิตรภาพอันเลวร้ายระหว่างเขากับชูสุเกะ

นั่นจึงทำให้เขาเริ่มคิดทบทวนกับตัวเองว่า แม้แต่คนที่รักหรือเชื่อในสิ่งเดียวกัน ก็ยังไม่อาจที่จะเข้าใจกัน และสามารถทำร้ายกันได้ถึงเพียงนี้

สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจทำ ‘บางสิ่ง’ ของยูอิจิที่คอนเสิร์ต ลิลลี่ ชูชู ในตอนท้ายของหนัง จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในฐานะ ‘วัยรุ่น’ -หรือกระทั่ง ‘มนุษย์’- คนหนึ่งของเขา ที่ทำให้เจ้าตัวไม่อาจหวนคืนกลับมาเป็นยูอิจิคนเดิม ในตอนที่ยังเป็นเพื่อนรักกับชูสุเกะได้อีกแล้ว และแม้แต่บทเพลงของลิลี่ก็ไม่อาจช่วยปลอบประโลมจิตวิญญาณที่พังทลายไปเรียบร้อยแล้วของเขาได้

และแม้จะเป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้า – ทว่าคนที่จะปลุกปลอบยูอิจิและวัยรุ่นคนอื่นๆ ให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับปัญหาในชีวิตอันแสนบัดซบนี้อย่างกล้าหาญได้ อาจไม่ใช่ทั้งผู้ใหญ่ หรือศิลปินอย่าง ลิลี่ ชูชู 

หากแต่คือ ตัวของพวกเขาที่ได้เรียนรู้และเติบโตจากความเจ็บปวดเหล่านั้นด้วยตัวเองต่างหาก

All About Lily Chou-Chou ฉายแล้ววันนี้ ที่โรงภาพยนตร์ House Samyan