Monster : เมื่อเราทุกคนกลายเป็น ‘สัตว์ประหลาด’ ในเรื่องราวของคนอื่นได้เสมอ
-ก
ก
ก+
Light
Dark
ฟังบทความ
...
Summary
- ชีวิตที่ดำเนินอยู่ล้วนเป็นทั้งเรื่องที่ ‘น่ายินดี’ และ ‘น่าอึดอัดใจ’ คือสิ่งที่ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ ผู้กำกับหนังรุ่นใหญ่จากญี่ปุ่นทำให้เรารู้สึกขณะดูหนังของเขา ซึ่งหลายคนอาจเริ่มรู้จักโคเรเอดะจาก Nobody Knows (2004) ภาพยนตร์เรื่องแรกที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกให้แก่เขา
- เราเชื่อว่า แม้บางคนอาจไม่ได้รู้จักความเป็นมาของโคเรเอดะในเชิงลึกนัก แต่คงไม่พ้นต้องเคยผ่านตาหนังดังเรื่องต่างๆ ที่เขาเคยฝากฝีมือกำกับควบเขียนบทเอาไว้มาไม่มากก็น้อย เช่น Like Father, Like Son (2013), Our Little Sister (2015) หรือ Shoplifters (2018) ที่เรื่องหลังนี้ทำให้เขาคว้ารางวัลปาล์มทองจากเมืองคานส์มาจนได้ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นหนังคุณภาพที่เป็นตัวอย่างชั้นดีของการพยายามหาจุดสมดุลระหว่างการเป็น ‘หนังที่ซับซ้อน’ กับ ‘หนังที่ย่อยง่าย’ ด้วยการผูกโยงประเด็นครอบครัวเอาไว้อย่างลึกซึ้ง
- หนังของเขามักจะเล่าผ่านคาแรกเตอร์ที่เป็นธรรมชาติ และถูกแผ่แบให้เห็นอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะด้านดีหรือด้านร้าย ซึ่งความเรียบง่ายเหล่านี้ส่องสะท้อนให้เราเห็นสิ่งมีชีวิตที่เราพบเจอในกระจกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และเราไม่อาจเบือนหน้าหนีมันได้ เพราะมันคือความจริงแท้ของ ‘มนุษย์’ อย่างเราๆ นี่เอง และความรุนแรงของโคเรเอดะในครั้งนี้ ก็กลับมาในนามของ Monster ภาพยนตร์ที่จะชวนเราเข้ามาทำความรู้จักกับ ‘สัตว์ประหลาด’ ในตัวเรา
- หนังว่าด้วยเรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งที่กังวลเกี่ยวกับลูกชายวัยประถมปลายที่เริ่มมีพฤติกรรมประหลาดต่างๆ อันเนื่องมาจากการถูก ‘ทำร้าย’ ทางร่างกายและจิตใจจากครูประจำชั้น เธอจึงรีบมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนเพื่อทวงถามความรับผิดชอบ ซึ่งหนังเลือกเล่าผ่านตัวละครหลักสามมุมมอง คือ แม่, ครู และลูกชาย เพื่อตีแผ่ให้เราค่อยๆ เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในเรื่องราวพวกนี้
...
Author
อาคิรา เดชารัตน์
อาชีพไม่ซ้ำ จำตำแหน่งไม่ได้ หลักๆ ทำงานครีเอทีฟ กำกับ เขียนบท และเปิดโปรดักชันเฮาส์ชื่อ invave (อินเวฟ)